อาชญากรรม

เมีย วางแผนพาผัวหนี จาก สภ.ด่านขุนทด หลังถูกจับคดียาเสพติด ก่อนถูก กองปราบตามรวบได้ทั้งคู่

 

นายเพชร หูกขุนทด อายุ 25 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ จ.56/2562 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเหลือเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่และหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาและมียาเสพติดให้โทษประเภท๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)และขับขี่รถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมาย” และ น.ส.ลลิตา คงสวัสดิ์ อายุ 20 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ จ.62/2562 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องรับโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” ถูกตำรวจกองปราบปราม จับกุม ตัวได้ บริเวณหน้าบันไดทางขึ้นอพาร์ทเม้นท์ แห่งหนึ่ง แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.

โดยพฤติการณ์ ตำรวจกองปราบปราม ได้รับการประสานจาก สถานีตำรวจภูธรด่านขุนทด ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งได้หลบหนีการถูกคุมขังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรด่านขุนทด จว.นครราชสีมา ได้มีการจับกุมตัว นายเพชร หูกขุนทด พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 124 เม็ด ในความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมาย” และในระหว่างที่ควบคุมตัวในชั้นจับกุมอยู่ที่ สภ.ด่านขุนทด นั้น ได้มี น.ส.ลลิตา คงสวัสดิ์ ซึ่งเป็นภรรยาของนายเพชรฯ ได้เข้ามาเยี่ยมตามปกติ และวางแผนในการช่วยเหลือนายเพชร เพื่อหลบหนีการจับกุม ก่อนจะหลบหนีไป

ภายหลังการจับกุม นายเพชรฯ และ น.ส.ลลิตาฯ ได้รับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง และน.ส.ลลิตาฯ รับว่า ตนได้คบกับนายเพชรฯ มาเป็นเวลา5 ปี และตนรู้สึกรัก นายเพชรฯ มาก เนื่องจากทั้งสองได้มีบุตรร่วมกัน จำนวน 1 คนและจำเป็นที่จะต้องเลี้ยงดูบุตรของตน ไม่อยากให้ภาระการเลี้ยงลูกตกไปอยู่กับญาติของตนด้วย จึงได้ตัดสินใจวางแผนร่วมกันกระทำผิดดังกล่าวขึ้น จากนั้นจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด จว.นครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *