นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาผู้เสียหาย ซึ่งถูกตำรวจสภ.บางพลี อุ้มรีดเงิน โดยใช้ข้ออ้างคดียาเสพติดในการ ข่มขู่ จากกรณีก่อนหน้านี้ที่มีการร้องเรียนตำรวจ สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ เรียกเงินผู้ต้องหาคดียาเสพติดเพื่อแลกกับการปล่อยตัว วันนี้จึงต้องการที่จะเดินทางมายื่นหนังสือกับพล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
โดยนายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายว่าถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางพลี มาที่บ้านช่วงบ่ายวันที่ 14 เมษายน ปี 63 อ้างว่ามีหมายจับคดียาเสพติดข้อหาสมคบกันค้ายา แต่ไม่แสดงหมายจับและหมายค้น พร้อมจับกุมตนเองและแฟนหนุ่มไปที่ สภ.บางพลี จากนั้นก็เสนอข้อตกลงว่าหากจ่ายเงินมา 2 แสนบาท แลกกับการที่ตนเองจะไม่ถูกดำเนินคดี แต่ทางผู้เสียหายต่อรอง ขอจ่ายเงินเป็นจำนวน 143,900 พร้อมรถจักรยานยนต์ และโน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง ทำให้ได้รับการปล่อยตัวไปในคืนวันนั้น ส่วนแฟนหนุ่มถูกดำเนินคดี
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่แฟนของผู้เสียหายถูกดำเนินคดีข้อหาค้ายา เพราะมีความผิดจริง โดยตำรวจพบยาบ้า 20 เม็ด ส่วนตัวผู้เสียหายไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย แต่กลับถูกแจ้งข้อหาสมคบกันค้ายา ที่ผ่านมาผู้เสียหายไม่กล้าออกมาร้องเรียนเพราะความกลัว แต่หลังจากที่เห็นการดำเนินคดีตำรวจ สภ.คลองด่าน ที่เรียกเงินผู้ต้องหาคดียาเสพติดในลักษณะคล้ายกัน จึงทำให้ตัดสินออกมาร้องเรียนในวันนี้
ด้าน พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า ส่วนตัวได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไว้แล้ว เนื่องจากนายอัจฉริยะได้ประสานงานไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งในวันนี้จะมีการสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด และจะมีการตั้งพนักงานสอบสวนภูธรจังหวัดสมุทรปราการดูแลคดี หากพบผิดจริงจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการในความผิดทางอาญา ส่วนทางวินัย หากเป็นคดีที่ร้ายแรงจะให้ออกจากราชการ โดยตั้งกรอบเวลาในการสอบสวน 30 วัน ซึ่งรูปแบบการทำงาน ก็จะคล้ายกับกรณีของสภ.คลองด่าน
โดย พล.ต.ท.อำพล ยืนยันกับผู้เสียหายว่า จะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย และดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็สั่งกำชับเรื่องการดำเนินคดีกับตำรวจที่ประพฤติมิชอบ