นายณัฐพงศ์ เงินคีรี จำเลยในคดีที่ถูกกล่าวหา แทงเด็กอุเทนถวายเสียชีวิต และศาลได้ตัดสินสั่งยกฟ้อง เมื่อวันที่23 กรกฎาคมที่มา โดยระบุว่า จากกระแสข่าวต่างๆที่ออกมานั้นส่งผลกระทบกับตัวเขาและครอบครัวเป็นอย่างมาก ทำให้ในวันนี้ทางโจ้ และครอบครัวจึงอยากออกมาพูดเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง
นายณัฐพงศ์ เงินคีรี หรือโจ้ กล่าวว่า ตนเองนั้นไม่ได้รู้จักกับนายนายธนิต ทันหสุนทร หรือเต้ ผู้ตายในคดีนี้มาก่อน พึ่งจะมารู้จักในวันเกิดเหตุ เพราะนายเต้ที่อยู่ในอาการมึนเมาเดินเข้ามาบอกว่าหมูซึ่งเป็นแฟนสาวของตนเองไปมองนายเต้ ทำให้ทั้งสองไม่พอใจจนเกิดการชกต่อยกันขึ้น และได้มีคนเข้ามาห้ามพร้อมลากนายโจ้ออกไปคืออาแหม่ม โดยอาแหม่มคืออาของนายโฟร์ค และโฟร์คคือเพื่อนของนายโจ้และนาย
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า กลังจากถูกอาแหม่มลากออกมานั้น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายเต้ ส่วนหมูแฟนสาวของตนในขณะนั้นกำลังเดินทางไปเอารถจักรยานยนต์ เพื่อพาตนเองกลับบ้าน
ด้านน.ส.หมู กล่าวว่าขณะที่เดินไปรถจักรยานยนต์ มีชายชื่อเบนซ์ เดินเข้ามาหาด้วยสภาพมือเปื้อนเลือด พร้อมพูดว่าผมแทงมันแล้ว ขอติดรถไปด้วย แต่น.ส.หมู ยืนยันว่าตนเองนั้นไม่ได้รู้จักกับนายเบ้นซ์มาก่อน นอกจากนี้ผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนอีกหนึ่งคนที่กล่าวหาว่าตนเองลงมือแทงนายเต้นั้น ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและในส่วนของสำนวนคดี นายโจ้ไม่ทราบว่าภายในสำนวนระบุข้อความอะไรบ้าง ตนเองได้เพียงแค่เซ็นต์ชื่อในเอกสาร ตามที่ทนายบอกเท่านั้น
สำหรับในการออกมาพูดในครั้งนี้ทางนายโจ้ เพียงต้องการขอความเป็นธรรมให้กับตนเองและครอบครัว เนื่องจากที่ผ่านมาต้องทนทุกข์กับการตกเป็นผู้ต้องหาแทงคนเสียชีวิตมาตลอด2ปี
ในขณะเดียวกันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นางเรวดี ทันหะสุนธร ได้นำเอกหลักฐานซึ่งเป็นไฟล์ข้อมูลที่ทางนายศุภชัย ทันหสุนทรหรือผู้ตาย เหตุกนะโดดตึกศาลอาญาซึ่งเป็นพ่อของนายเต้ได้เก็บรวบรวมไว้ นำมามามอบให้กับพล.ต.ท ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษา แต่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลที่กระทำความผิด และจะสามารถทราบความคืบหน้าของคดีภายใน15 วัน นับตั้งแต่วันมีการเรียกประชุมนัดแรกวันนี้
