ภูมิภาค

บิ๊กหลวง เปิดปฏิบัติการ “1386” ปราบผู้ค้า นำผู้เสพเข้ากระบวนการบำบัด

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดปฏิบัติการ 1386 “สยบผู้ค้า นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด” จำนวน 5 เป้าหมาย ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1และนางกาญจนา วรรณะพาหุณ หัวหน้ากลุ่มงานสุขภาพจิตและยาเสพติด สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ

สำนักงาน ป.ป.ส. สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ และสาธารณสุข ดำเนินการต่อข้อร้องเรียนประชาชนผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ภายใต้ปฏิบัติการ 1386 “สยบผู้ค้า นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด” จำนวน 5 เป้าหมายในพื้นที่ อ.พระปะแดง และ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สามารถนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด 2 ราย โดยหลังการจับกุมผู้เสพ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ได้เข้าพูดคุย กับผู้เสพ ที่ไม่มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติด เพื่อให้กำลังใจในการเข้ารับการบำบัดรักษา โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขช่วยดูแลนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหายาเสพติดโดยมีมาตรการเร่งด่วนในการนำผู้เสพยาเสพติดจำนวนกว่า 32,000 ราย เข้ารับการบำบัด โดยใน 32,000 ราย มีจำนวนกว่า 7000 ราย ที่เป็นผู้ป่วยจิตเวชซึ่งต้องนำเข้าสถานพยาบาลก่อน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับชุมชน ในขณะที่อีกกว่า 25,000 ราย ที่ยังสามารถใช้ชีวิตในชุมชนได้เช่นรายนี้ต้องรับการประเมินโดยแพทย์เพื่อเข้ารับการบำบัดอย่างเหมาะสม และต้องดำเนินการภายใน 100 วัน

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นการดำเนินการต่อข้อร้องเรียนจากประชาชน ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ถึงความเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติด ซึ่งเราได้ดำเนินการปราบปรามกลุ่มนักค้ายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน และในส่วนของผู้เสพที่ไม่มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดหากยินยอมจะนำเข้ากระบวนการบำบัดรักษา และจะมีปฏิบัติการเช่นนี้ในทั่วประเทศ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ชุมชน “ตนยืนยันว่าในปัจจุบัน หมดยุคข้าราชการนั่งแต่ห้องแอร์แล้ว ต้องลุกขึ้นมาช่วยชุมชนและที่สำคัญชุมชนก็ต้องลุกขึ้นมาสู้กับยาเสพติด” พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าว

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า ชุมชนที่เข้มแข็ง เป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการจับกุมในครั้งนี้ข้อมูลพฤติการณ์ผู้ค้าผู้เสพส่วนหนึ่งได้จากพี่น้องประชาชนก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปสืบสวนขยายผลต่อ ซึ่งต้องขอบคุณผู้ร่วมแจ้งเบาะแสช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ การช่วยเหลือจากชุมชนอย่างการร่วมเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวัง จะเป็นเครื่องมืออย่างดีในการช่วยป้องกันไม่ให้เกิดผู้ค้าผู้เสพรายใหม่ในชุมชน นอกจากนี้ในการดำเนินการตามแนวทางเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย แรงสนับสนุน กำลังใจ การให้โอกาสจากครอบครัว ชุมชน ต่อผู้เสพ ล้วนสำคัญต่อการเลิกยาเสพติดได้ ไม่เกิดการเสพซ้ำ ทั้งนี้หากต้องการแจ้งเบาะแสยาเสพติดสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง ปลอดภัย และไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลผู้แจ้ง

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ยังได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึง การเตรียมให้เปิดผับบาร์ถึงตี 4 ในบางพื้นที่มีมาตรการในการควบคุมยาเสพติดอย่างไรว่า ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมาหากสถานประกอบการฝ่าฝืนกฎข้อบังคับ หรือปล่อยปะละเลย ให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการของตนเอง เช่นปล่อยให้มีการมั่วสุม ครอบครอง ซื้อขายยาเสพติด ตน ในฐานะ เลขาธิการ ป.ป.ส. จะทำบันทึกถึงนายกรัฐมนตรี และใช้อำนาจเลขาธิการ ป.ป.ส. พิจารณาสั่งพักใช้ใบอนุญาต หรือสั่งปิดสถานบริการชั่วคราว 30 วันโดยหากพบเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะถูกลงโทษเช่นกันไม่มีการละเว้น

Related Posts