ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยว่า คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของแตงโม ได้มีคำสั่งให้ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีแล้ว เนื่องจากเหตุผลไม่เชื่อฟังแม่ แสดงความคิดเห็นและให้สัมภาษณ์ขัดกับความเห็นของแม่ รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตและขัดแย้งกับตำรวจ ทำให้แม่ค่อนข้างรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นทนายเดชาที่มีอำนาจทั้งหมดในการดูแลคดีนี้แทน
ทนายเดชา ยืนยันว่าไม่มีการยุยงให้แม่ของแตงโมเปลี่ยนทนายความเกิดขึ้น ส่วนความสัมพันธ์กับทนายกฤษณะถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก รักและช่วยเหลือทาตลอด ในตอนที่มีหมายจับก็ช่วยเหลือไม่มีปัญหา รักกันเหมือนเดิม
การเปลี่ยนทนายครั้งนี้เกิดจากความผิดพลาดของทนายกฤษณะหคือไม่ ทนายเดชา กล่าวว่า ไม่ใช่ความผิดพลาด แต่เป็นความผิดใจคุณแม่ ผิดพลาดยังแก้ไขได้ แต่ผิดใจแก้ไขยากซึ่งการสั่งพักหรือเปลี่ยนทนายถือเป็นสิทธิ์ของลูกความ
ทนายเดชา ยังกล่าวถึงความคืบหน้าทางคดี โดยคาดว่า ภายใน 7 วันนี้ อาจมีการแจ้งข้อกล่าวหาคนบนเรือเพิ่มเติมอย่างแน่นอน
นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของ “แตงโม นิดา” หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ เปิดเผยระผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างพูดกับทนายเดชา ถึงการเปลี่ยนตัวทนาย จากเดิมมีการแต่งตั้ง นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย เป็นทนายประจำตัว แต่ล่าสุดได้เปลี่ยนให้ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ เป็นทนายประจำตัวและทำคดีของแตงโม 100% นั้น ว่า แม่ไม่ได้ปลดทนายกฤษณะ แต่เปลี่ยนให้ทนายเดชา เป็นของทนายของคุณแม่ และว่าความให้แม่เรื่องของแตงโม คนเดียวเท่านั้น ส่วนทนายกฤษณะ จะช่วยทนายเดชา ทำงานในออฟฟิศ จะไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ใดๆอีกแล้ว ไม่ออกทีวีไม่ต้องเดินเอกสาร ไม่ต้องไปโรงพัก ให้อยู่ที่ออฟฟิศเท่านั้น และให้ทนายเดชา เป็นผู้สั่งการ เพราะฉะนั้น จดหมายที่แต่งตั้งทนายกฤษณะ จะยกเลิกไป และแม่จะแต่งตั้งใหม่เป็นทนายเดชา
ส่วนสาเหตุที่ให้ทนายกฤษณะ อยู่แค่ในออฟฟิศแล้วเปลี่ยนเป็นทนายเดชาดูแล สั่งการ เพราะ ทนายกฤษณะขัดคำสั่ง ซึ่งก่อนหน้านี้แม่บอกไม่ให้ออกรายการ ไม่ให้สัมภาษณ์ เพราะไม่มีอะไรให้พูดแล้ว แต่ทนายกฤษณะ ก็ยังไปออกรายการต่างๆ อยู่ตลอด ไม่ยอมหยุด ซึ่งการให้สัมภาษณ์นั้นก็พูดเกี่ยวกับคดีของแตงโมทั้งนั้น ทำให้ตำรวจยศใหญ่ ไม่พอใจ เพราะเจรจากันไม่ได้ความ ตัวของทนายกฤษณะเอง ก็พึ่งจบมาเพียงแค่ 2 ปี กฎหมายก็ยังไม่แม่น ซึ่งทางตำรวจก็มีความรู้สึกว่ารำคาญ เพราะพูดไม่รู้เรื่อง
โดยในช่วงแรกที่แม่ให้ทนายกฤษณะมาทำคดี เพราะมีตำรวจที่ สภ.เมืองนนทบุรี แนะนำให้ แล้วตอนนั้นแม่ยังไม่ต้องใช้ทนายจึงรับไว้เฉยๆ แต่ยังไม่ได้ใช้งาน จนกระทั่งหลังเกิดเหตุ 1 สัปดาห์ผ่านไป จึงจำเป็นต้องใช้ทนายแล้วเพราะมีการสัมภาษณ์เยอะมาก จึงมีการเรียกทนายมาช่วย ซึ่งสาเหตุโดยรวม แม่ไม่พอใจที่ทนายกฤษณะ ที่เดินสายสัมภาษณ์หลายที่ ซึ่งส่วนตัวแม่ก็เชื่อว่าทนายกฤษณะต้องการพื้นที่สื่อ เพื่อสร้างโปรไฟล์ให้กับตัวเอง เพราะเป็นทนายใหม่ ทั้งนี้ คุณแม่ภนิดายังเชื่อว่า ทนายเดชาเก่งกว่าเยอะ และแม่เห็นผลงานของทนายเดชา มาตลอดตั้งแต่ไม่รู้จักจนรู้จักจนได้มาทำงานร่วมกัน