พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม.พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบโรค หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงความคืบหน้าแผนการรองการเกี่ยวกับการรับมือจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 และมีมาตราการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิคในห้องกักบางเขนและสวนพลูของ สตม.และการจัดตั้ง รพ.สนามชั่วคราวเพื่อรองรับผู้ต้องกักที่ตรวจพบเชื้อ เบื้องต้น ผู้ต้องกักต่างชาติมีจำนวน 1,615 คน อยู่ที่สถานกักตม.บางเขน 490 คน และตม.สวนพลู 1,125 คน มีผู้ติดเชื้อโควิดอยู่ในความดูแล 393 ราย ชาย 370 หญิง 23 ในจำนวนนี้มีตำรวจปฎิบัติหน้าที่ดูแลผู้ต้องกักติดโควิด 1 นาย ได้ส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจแล้ว และขณะนี้ สตม.ได้ร่วมกับ รพ.ตำรวจ กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมและกทม.จัดตั้งโรงพยาบาลสนามชั่วคราวขึ้นอีกแห่ง
ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่าในวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) จะทำการย้ายผู้ต้องกักบางเขนที่ติดเชื้อจำนวน 393 รายไปรักษาตัวที่ รพ.สนามที่ตั้งอาคารโรงยิมกองสวัสดิการ สนามบุญยะจินดา สโมรตำรวจ โดยรายะเอียดขั้นตอนการย้ายจะมีการประชชุมสรุปร่วมกับกรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าเป็นไปตามมาตรฐานการดูแลรักษาและขอให้ประชาชนในพื้นที่รวมทั้งข้าราชการตำรวจหน่วยงานข้างเคียง มั่นใจในมาตรการควบคุมโรค เนื่องจากการตั้งสนามได้นำโมเดล ทั้งที่ ตม.สงขลา และ รพ.สนามที่สมุทรสาครมาปฎิบัติและที่ผ่านมาชุมชนใกล้ รพ.สนามไม่ได้รับผลกระทบ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติภายในได้รับการฉีดวัคซีนหมดแล้ว และในการปฎิบัติมีการสวมชุด PPE ตลอด และมีการติดกล้องวงจรปิดเพื่อดูแลการเข้าออก และทำการวัดเชื้อ
ด้าน นพ.โสภณ กล่าวถึงการเคลื่อนย้ายผู้ต้องกักจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ติดเชื้อใหม่, ผู้ติดเชื้อมาระยะหนึ่ง และกลุ่มผู้เคยติดเชื้อ ยืนยันว่าจำนวนเตียงผู้ป่วยในรพ.สนามใหม่เพียงพอรองรับ เพราะจะมีการคัดกรองผู้ป่วยแล้ว สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน ไม่แสดงอาการ ไม่มีผู้ป่วยอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตตามที่มีกระแสข่าว แต่หากมีอาการรุนแรงก็พร้อมส่งไปรักษารพ.ข้างนอกที่มีความพร้อม คาดว่าสถานการณ์การติดเชื้อในผู้ต้องกักกลุ่มนี้ จะคลี่คลายภายในระยะเวลา 2 ถึง 4 สัปดาห์ โดยจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะ