อาชญากรรม

กองปราบ ตม. จับกุมแก๊งครูต่างชาติหลอกขายหน้ากากอนามัย เสียหายกว่า 30 ล้านบาท

ตำรวจกองปราบปราม ร่วม ตำรวจจรวจคนเข้าเมือง กันจับกุม นายแทงโก เจอาร์ โรโม สัญชาติ พิลิปปินส์ และ นางสาวอาซากา ลิเลียน มบาห์ สัญชาติแคเมอรูน ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” โดยจับกุมได้ ใน จังหวัดมหาสารคาม และ จังหวัดขอนแก่น

จากกรณี เมื่อประมาณเดือน มี.ค.2563 ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ได้มีกลุ่มคนร้ายฉวยโอกาสอ้างตนเป็นเจ้าของบริษั​ท TDR Trading ผลิตหน้ากากอนามัยรายใหญ่ โดยมีการสร้างเว็บไซต์ปลอม นำโลโก้และชื่อของบริษัทอื่นมาใช้แอบอ้าง นอกจากนี้ยังมีการปลอมเอกสารเกี่ยวกับการสั่งซื้อและขนส่งสินค้าเพื่อหลอกขายสินค้าประเภทหน้ากากอนามัยให้แก่ผู้เสียหาย จนมีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินค่าสินค้าไปยังบัญชีธนาคารของคนร้าย

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสากล (INTERPOL) ได้แจ้งข้อมูลมายังกองบังคับการปราบปราม ว่าพบเส้นทางการเงินที่มีความผิดปกติของกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัย โดยเชื่อว่าอาจจะถูกหลอกลวง กองบังคับการปราบปรามจึงได้ติดต่อไปยังบริษัทผู้เสียหายเพื่อยับยั้งการทำธุรกรรม ซึ่งขณะนั้นทางบริษัทผู้เสียหายเตรียมตัวที่จะโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายเพิ่มเติมอีกจำนวน 3 ล้านบาท โดยมีมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 27 ล้านบาท


รูปแบบของแผนประทุษกรรมของกลุ่มคนร้าย จะทำการโอนและถอนเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงผู้เสียหายทั้งหมด ไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้ายบัญชีอื่นๆ และจะทำการถ่ายเทเงินทั้งหมดไปยังบัญชีปลายทางที่คนร้ายถือครองอยู่ ใน ต่างประเทศและในประเทศไทย เพื่อทำการถอนเงินทั้งหมดออกมา

นอกจากนี้ยังสืบสวนทราบอีกว่า กลุ่มคนร้ายได้เข้ามาแฝงตัวเป็นครูสอนภาษาและพักอาศัยอยู่ตามจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะพักอาศัยอยู่รวมกัน​ มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน โดยกลุ่มคนร้ายที่อยู่ในประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย


จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ โดยรับว่าเป็นคนจัดหาบัญชี ,กดเงิน และโอนเงินที่ได้หลังจากหักส่วนแบ่งไปยังบัญชีต่างประเทศ โดยผู้ต้องหาทั้งสองจะได้รับค่าตอบแทนประมาณคนละ 3 แสนบาท และได้นำเงินที่ได้ดังกล่าวไปใช้จ่าย เที่ยวและโอนเงินกลับไปหาครอบครัวที่ต่างประเทศ

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *