วันที่ 10 ก.ย. ที่ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นายภูมิวิศาล เกษมสุข รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท. เข้าร่วมสอบปากคำ นายไพโรจน์ ทินโน อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตปทุมวัน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.53/2563 ลงวันที่ 2 กันยายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 171 โดย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 (กปท.2) ได้ประสาน พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ไชยวุฒินันท์ ผกก.สส.4 บก.สส.ภ.1 นำหมายจับ เข้าจับกุม ผู้ต้องหารายนี้ ได้ที่บ้านพักในเขต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และคุมตัวส่ง สภ.ลำลูกกา ขณะเจ้าหน้าที่ของ สำนักงาน ปปท. อีกชุดประสานงานกับ พ.ต.อ.อาจิน บัวผัน ผู้กำกับการสืบสวนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อ นำกำลังเข้าจับกุม นายสงบ หรือภัทรพล หอมสมบัติ อดีตเทศกิจสำนักงานเขตปทุมวัน ที่ร่วมกับ นายไพโรจน์ รีดเงินนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยจับกุมได้ที่ อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม จ.ประจวบคีรีขันธ์ คุมตัวนำส่ง สภ.บางสะพาน
นายภูมิวิศาล กล่าวว่า การจับกุมนายไพโรจน์ และนายสงบ ครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2559 มีการนำเสนอภาพข่าวของ เจ้าหน้าที่เทศกิจ 2 ราย ที่เรียกรับเงินจากนักท่องเที่ยวและนักลงทุนชาวต่างชาติ ที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เหตุเกิดที่ริมคลองหลอด สนามหลวง และมีพลเมืองดีช่วยถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน หลัง สำนักงาน ปปท.ทราบเรื่องงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการสืบสวนติดตาม จนทราบตัว ผู้เสียหายชาวต่างชาติทั้ง 2 ราย จึงเชิญตัวมาให้สอบถามข้อมูล โดยปมเหตุของการรีดไถเงิน ดังกล่าว นักท่องเที่ยว อ้างว่า อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจทั้ง 2 คน กล่าวหาว่า ทิ้งเศษบุหรี่ ในที่สาธารณะต้องมีโทษปรับ ก่อนที่จะฉกฉวยเอากระเป๋าเงินในกระเป๋ากางเกงของนักท่องเที่ยวไปและหยิบเงินออกไป ก่อนที่จะมีพลเมืองดี มาช่วยเหลือ และถ่ายคลิปไว้ อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจทั้ง 2 ราย จึงได้ขับขี่รถ จักรยานยนต์ หลบหนีไป
ภายหลัง สำนักงาน ปปท. ทำการสอบสวนและสรุปสำนวนแล้วเสร็จ คณะกรรมการ ปปท. ชี้มูลว่า การกระทำของ นายไพโรจน์ และนายสงบ มีความผิด จึงออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ทั้ง 2 คนไม่มารายงานตัว มีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี จึงขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับไว้
จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนติดตามเรื่อยมา จนทราบว่า นายไพโรจน์ หลบหนีอยู่ที่ บ้านพักในเขต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงนำหมายศาล เข้าจับกุม และคุมตัวมาสอบสวน ที่ สภ.ลำลูกกา และจับกุมตัวนายสงบ ได้ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนจะส่งตัวให้พนักงานอัยการ และส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้
รองเลขาฯ ปปท. ยังกล่าวด้วยว่า ดังกล่าว สำนักงาน ป.ป.ท โดยศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติ เล็งเห็นความสำคัญ ของการอำนวยความยุติธรรมให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติ จึงดำเนินการติดตามคดีเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐในอำนาจหน้าที่รังแกนักลงทุนหรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย ด้วย
