พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รอโฆษกตำรวจ ระบุว่า เรื่องการตั้งด่านเคอฟิวทั่วประเทศ ปัจจุบันมีการตั้งด่านตรวจ 998 จุดทั่วประเทศ ซึ่งผลการจับกุมผู้ฝ่าฝืนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีการจับกุมไปมากกว่า 7,000 ราย แต่ยืนยันว่ามีแนวโน้มการจับกุมลดลงทุกวัน ส่วนการดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน เมื่อคืนนี้ มีการดำเนินคดี 929 คน แบ่งเป็นผู้ออกนอกเคหสถาน 820 คน มีการตักเตือนไป 172 คน ส่วนที่เหลือ 642 คน ถูกดำเนินคดี อีกกลุ่มหนึ่งเป็นประชาชนมั่วสุมในเคหสถาน ซึ่งมีการดำเนินคดีไป 109 คน
ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยังไม่เข้าใจเจตนารมย์ในการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรค ที่ต้องการให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทาง ไปทำกิจกรรม พบปะสังสรรค์ ให้เน้นการอยู่ในที่พักเป็น นอกจากนี้นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ยังพบมีสถานประกอบการฝ่าฝืนคำสั่งถูกดำเนินคดี รวม 62 ราย ร่วม 300 คน ในจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพและปริมณฑล , เชียงใหม่ , ภูเก็ต , เกาะสมุย อย่างล่าสุดเช่นมีการดำเนินคดีกับนักท่องเที่ยวและเจ้าของกิจการที่ทำกิจกรรมมั่วสุมในโรงแรมที่จังหวัดเชียงราย และทีาเกาะสมุย
อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีที่ต้องมีการเดินทางออกนอกเคหะสถานในช่วงที่มีการประกาศเคอฟิว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำแบบฟอร์มกลาง เพื่อเป็นแนวทางในการออกหนังสือรับรองให้กับผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง ตามที่ได้รับการยกเว้นในประกาศ พรก.ฉุกเฉิน อาทิ แพทย์ , พยาบาล , สื่อมวลชน , พนักงานที่เข้ากะกลางคืน ซึ่งหากต้องผ่านด่านตรวจก็ต้องมีเอกสารรับรอง รวมถึงบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อยืนยันตัวบุคคล และหากเป็นกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็น ก็จะพิจารณาอนุญาตเป็นรายกรณีไป