พลตำรวจโทอำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงผลการปฏิบัติงานร่วมกันกับพาณิชย์จังหวัดปทุมธานีฝ่ายปกครองจังหวัดปทุมธานีในการจับกุมหน้ากากอนามัย โดยสามารถจับกุมตัว นายบรรพต หรือโจ แก้ววารี อายุ 46 ปี พร้อมของกลางเป็นหน้ากากอนามัยสำหรับปิดจมูกและปาก รวม 138,000 ชิ้น
ทั้งนี้ตำรวจสืบสวนภาค 1 ทราบว่าการขายหน้ากากอนามัยเกินราคาจาก Facebook ชื่อ Linnmuey Saejew จึงได้ทำการตรวจค้นและจับกุมนางสาวฐิติพร ศิริฉาย พร้อมหน้ากากอนามัย 11,745 ชิ้น โดยจับกุมได้ในเขตพื้นที่ ภาษีเจริญกรุงเทพฯจากนั้นได้ทำการขยายผลและรับทราบข้อมูลจาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ว่าหน้ากากอนามัยที่นางสาว ฐิติพร นำออกจำหน่ายนั้น ผลิตอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จึงทำการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนขอศาล ออกหมายค้นสถานที่ดังกล่าว พบนายบรรพต แก้ววารี แสดงตนเป็นเจ้าของบริษัท และจากการตรวจค้นพบของกลางเป็นหน้ากากอนามัยกว่า 138,000 ชิ้น หากขายใน Facebook ทั่วไปชิ้นละ 12 บาทจะมีมูลค่ารวมประมาณ 1,656,000 บาท ทั้งนี้ นายบรรพต ยินยอมยกหน้ากากอนามัยของกลางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในสาธารณะ
นอกจากนี้ ตำรวจสภเมืองสมุทรปราการยังจับกุมแอลกอฮอล์แบบน้ำ แบบบรรจุแกลลอน รวม 617 ลิตร มูลค่ารวม 50,000 บาท โดยจับกุมได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลบางเมือง อำเภอเมืองสมุทรปราการ โดยมีนายชาญวิทย์ วทิชานนท์ รับเป็นผู้ถือครอง Facebook. ชื่อ โอ๊ะโอ๋ ประกันซิ่ง ที่ลงโฆษณาขายแอลกอฮอล์และเจลล้างมือให้กับประชาชน โดยไม่มีเอกสารจดแจ้งของแอลกอฮอล์และเจล ที่พบในบ้านดังกล่าว
ขณะที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมได้นำรายชื่อบริษัทที่มีการครอบครองและจำหน่ายหน้ากากอนามัยกว่า 100 บริษัท ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 มามอบให้กับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบว่ามีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐาน หรือขายเกินราคาหรือไม่