พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน นำสำนวนคดีแฟลชม็อบเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 พร้อมควบคุมตัวนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ นางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มาส่งอัยการคดีพิเศษ เขต 5 (ปทุมวัน) หลังพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้รวม 8 คน โดยก่อนหน้านี้ผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 5 นครปฐม นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ นายธนวัฒน์ วงค์ไชย และนางสาวณัฏฐา มหัธนา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนฟ้องไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อให้อัยการพิจารณามีความเห็นทางคดีว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่
นายกกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ระบุว่า พพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องทั้ง 5 ข้อหาประกอบด้วย 1.ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง 2.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ 3.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ 4.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และ 5. ชุมนุมในรัศมีใกล้เขตพระราชฐาน 150 เมตร โดยหลังอัยการรับสำนวนจากพนักงานสอบสวน จะนัดฟังคำฟ้องอีกครั้งในวันที่ 15 เมษายน ซึ่งทนายยืนยันว่าจะทำเรื่องยื่นขอความเป็นธรรมเนื่องจากมองว่าพยานหลักฐานยังไม่ครบถ้วน
ด้านนายปิยบุตร ยืนยันจะเดินหน้าสู้คดี โดยมองว่าการดำเนินคดีในครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นการปรับปรุงแก้ไขพรบ.ชุมนุม โดยมองว่าเป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนและไม่อยากให้มองว่าเป็นการกลั่นแกล้งเฉพาะบุคคลแต่ต้อฃมีการปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ 3 ผู้ต้องหาไม่สามารถรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมผู้ต้องหาอีก 5 คนได้เนื่องจากติดภารกิจประชุมสภา ซึ่งมีเอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองจึงไม่สามารถมารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมคนอื่นได้ พนักงานสอบสวนจึงให้รับทราบข้อกล่าวหาภายหลังก่อนนำตัวส่งฟ้องในวันนี้
