ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความคดีดำ ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้องนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทยเป็นจำเลยในความผิดฐานยุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116, ความผิดฐานฝ่าฝืน ขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
จากกรณีเมื่อวันที่ 27 พ.ค.57 จำเลยได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่อต้านการเข้าควบคุมอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยให้ประชาชนเห็นว่า การเข้าควบคุมอำนาจของ คสช. เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง และคำสั่งหรือประกาศ คสช.ก็ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการกระทำเพื่อให้ประชาชนทั่วไปต่อต้านการคุมอำนาจของ คสช. เป็นการยั่วยุปลุกปั่นทำลายความน่าเชื่อถือของคณะ คสช. เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร
โดยวันนี้ นายจาตุรนต์ เดินทางมาศาลพร้อมด้วย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นทนายความให้จำเลย เมื่อถึงเวลานัดอัยการโจทก์และทนายความจำเลยแถลงว่าคู่ความทั้งสองฝ่ายไม่มีข้อเท็จจริงที่ใดสามารถรับกันได้ โดยอัยการโจทก์จะขอสืบพยานต่อจากพยานเดิมที่เบิกความไว้กับศาลทหารแล้วจำนวน 2 ปาก โดยยื่นระบุบัญชีพยานที่จะนำสืบ เช่น ตำรวจที่ตรวจสอบการแถลงข่าวของจำเลย, เจ้าหน้าที่แปลภาษา, เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อความแถลงข่าวที่โพสต์ลงในเฟซบุ๊กและพนักงานสอบสวน ทั้งหมด 18 ปาก ใช้เวลา 10 นัด ขณะที่ฝ่ายจำเลยแถลงขอนำพยานเข้าสืบหักล้าง ประกอบด้วย นายจาตุรนต์ จำเลยที่ได้อ้างตนเองเป็นพยานปากแรก, นักวิชาการที่ให้ความเห็นทางข้อกฎหมาย ความเห็นด้านความมั่นคง ความเห็นทางการเมืองในขณะนั้น และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊ก จำนวนทั้งหมด 16 ปาก ใช้เวลา 10 นัด ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตโดยนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่ 5 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.