พล.ต.ท.สมพงษ์ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงการจับกุมนายริชาร์ด สตานิชเลาส์ ครูเจอร์ (Mr.Richard Stanisluas kruger) อายุ52ปี ผู้ต้องหาชาวเยอรมัน ตามหมายจับคดีฉ้อโกง บัตรเครดิตของประเทศเยอรมัน และหมายจับซ่อนเร้นอำพรางศพ นางมาร์กูนด์ เชฟเฟอร์ (Mrs.Margund schaefer) อายุ77 ปี เพื่อนร่วมชาติ ยัดตู้ไม้ทิ้งคลองบางโปรง หลังสนามกีฬาเทศบาลเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี เพื่อหวังเงินเกษียณ จับกุมที่บ้านเช่า ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา
พล.ต.ท.สมพงษ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับการประสานจากตำรวจเยอรมัน ให้ช่วยติดตามนางมาร์กูนด์ ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการเยอรมันได้รับแจ้งว่าสูญหายทางญาติไม่สามารถติดต่อได้เกรงว่ามารดาอาจถูกทำร้ายหรือจะได้รับอันตราย เมื่อตรวจสอบพบว่า เดินทางเข้าไทยมาพร้อมกับนายริชาร์ด ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 โดยนายริชาร์ด มีหมายจับเยอรมันนี คดีฉ้อโกง กระทำผิดลักษณะหลอกลวงผู้หญิงสูงอายุหลายครั้ง และมีหมายจับประเทศเยอรมันในข้อหาฉ้อโกงบัตรเครดิต 17 กระทง รวมเป็นเงิน 6,000 ยูโร หรือประมาณ 240,000 บาท จึงติดตามหา และจับกุมที่ห้องเช่า เมืองชลบุรี ซึ่งอาศัยอยู่กับภรรยาหญิงไทย ตรวจสอบพบว่าวีซ่าหมดอายุตั้งแต่ 22 มิ.ย. 2560 จึงได้ควบคุมตัวไปยัง สภ.แสนสุข
โดยการจากสอบปากคำ นายริชาร์ด ให้การว่าได้อาศัยอยู่ด้วยกันกับภรรยาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 ซึ่งเดินทางจากเยอรมันนีมากับนางมาร์กูนด์ โดยใช้เงินที่โอนมาจากประเทศเยอรมันเดือนละหลายหมื่นบาท โดยเงินดังกล่าวนายริชาร์ดเล่าว่าส่วนหนึ่งเป็นเงินเกษียณของนางมาร์กูนด์ ต่อมาประมาณต้นเดือนมกราคม 2562 นางมาร์กูนด์ ได้ล้มลงในห้องน้ำจึงได้ช่วยกันพามานอนพัก จนทราบภายหลังว่าเสียชีวิตแน่นอนแล้ว นายริชาร์ด จึงได้นำผ้าห่มมาห่อศพแล้วยัดใส่ตู้ลังไม้ใส่ของ จากนั้นนำศพใส่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างหรือซาเล้ง ขี่ไปทิ้งที่คลองบางโปรง หลังสนามกีฬาเทศบาลเมืองแสนสุข
ต่อมาเมื่อวันที่12 มกราคม 2562 มีข่าวพบศพหญิงนิรนามถูกยัดใส่ตู้ลังไม้ลอยน้ำ ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่าศพดังกล่าวคือนางมาร์กูน จึงได้ประสาน ผบช.ภ.2 และตำรวจประเทศเยอรมัน ร่วมพิสูจน์ในคดีนี้ จนสามารถรวยรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลจังหวัดชลบุรีออกหมายจับนายริชาร์ด ในข้อหา ซ่อนเร้นอำพราง ย้าย หรือทำลายศพฯ และได้แจ้งข้อกล่าวหา อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการจับผู้ต้องหายังให้การปฎิเสธ โดยทางตำรวจเตรียมเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าของรถซาเล้ง ที่ผู้ต้องหายืมไปขับเพื่อนำศพไปทิ้ง ชาวประมงที่พบศพ รวมทั้งตรวจสอบบัญชีของผู้ตาย เพื่อหาความเชื่อมโยงในคดีและนำตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป