บรรยากาศที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย วันนี้พบ นักเรียนจำนวนมาก ต่างแต่งกายด้วยชุดไปรเวท เดินทางมาเรียนหนังสือ หลังทางโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียน สามารถสวมชุดไปรเวทมาเรียนได้ทุกวันอังคาร ไปจนครบ1 ภาคเรียน
จากการสอบถามกลุ่มนักเรียน พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบกิจกรรมดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมา นักเรียนต้องสวมใส่ชุดนักเรียนตามปกติ ซึ่งการให้นักเรียนสามารถแต่งกายด้วยชุดไปรเวทได้ 1 วันต่อสัปดาห์ ถือเป็นการให้อิสระกับนักเรียนด้านการแต่งกายมากขึ้น แม้ว่าจะมีข้อแม้ว่าชุดที่สวมใส่ต้องเป็นชุดที่สุภาพเรียบร้อย แต่ทางนักเรียนก็เห็นด้วยกับนโยบายที่ออกมา เพราะมองว่าเป็นการเรียนรู้ด้านประชาธิปไตย บนพื้นฐานของความรับผิดชอบ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการต้องหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ไม่ถือเป็นปัญหา เพราะนักเรียนที่ไม่สามารถหาชุดได้ ก็สามารถสวมใส่ชุดนักเรียนมาได้ตามปกติ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ พร้อมยืนยันว่ากิจกรรมนี้จะไม่ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนอย่างแน่นอน
ขณะที่ นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เปิดเผยว่า กิจกรรมที่จัดขึ้น เป็นการทดลองเพื่อวิจัยเท่านั้น โดยจะจัดขึ้นทุกวันอังคาร เป็นระยะเวลา 1 เทอม เบื้องต้น ยอมรับว่า อาจจะมีกลุ่มศิษย์เก่า และ ผู้ปกครอง ที่ทั้งสนับสนุน และ ไม่สนับสนุน กิจกรรมนี้ แต่ยืนยันว่านโยบายที่ออกมาเป็นการวิจัยทดลอง เพื่อตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ทันสมัยขึ้น ซึ่งหากครบกำหนด 1 ภาคเรียนแล้ว ทางคณะครูก็จะมีการหารือกันว่า ผลดีผลเสียที่ได้จากโครงการดังกล่าวเป็นอย่างไร และ หากพบว่ามีข้อเสียมากกว่าก็ดี ก็จะยกเลิกโครงการนี้ในภาคเรียนถัดไป พร้อมระบุว่า จะไม่ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำในโรงเรียน เพราะที่ผ่านมา พบเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ค่อนข้างจะใช้ชีวิตตามปกติกับเพื่อน ๆ แม้ว่าแต่ละคนจะมาจากครอบครัวที่ฐานะทางบ้านต่างกัน ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม คณะครูของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ยังได้กล่าวอีกว่า โครงการนี้ ถือเป็นสร้างการรับรู้ด้านประชาธิปไตย เพื่อให้นักเรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์ และได้เรียนรู้ว่า ตนเองมีสิทธิพลเมืองโดยนโยบายนี้ อนุญาตให้สามารถแต่งกายด้วยชุดไปรเวทได้ก็จริง แต่นักเรียนทุกคนจะต้องแต่งกายด้วยความเรียบร้อย ไม่ใส่เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย หรือกางเกงยีนส์ขาด เพราะโรงเรียนยังถือว่าเป็นสถานศึกษาที่ต้องให้ความเคารพ