พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุม กลุ่มมิจฉาชีพเปิดบริษัทขายกาแฟในลักษณะแชร์ลูกโซ่ สร้างมูลราคาความเสียหายกว่า 3000 ล้านบาท โดยกลุ่มมิจฉาชีพมีพฤติการณ์เปิดบริษัทขายกาแฟแคชแบ็ค อ้างว่าจับมือกับหน่วยงานราชการ อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พร้อมอ้างว่ารู้จักกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ชักชวนให้ประชาชนสมัครเป็นสมาชิกโดยให้ลงทุนต่ำเพียง 1,000 บาทรับรหัสสมาชิก และ กาแฟ 3 กล่อง และ จะได้ผลตอบแทนเป็นเงิน 2,050 บาทต่อ 30 วัน ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ มีประชาชนหลงเชื่อสมัครเป็นสมาชิกมากกว่า 86,000 รหัส
กระทั่ง 23 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทขายกาแฟแคชแบ็ค ประกาศผ่านเว็บไซต์ว่ามีปัญหาขอคืนเงินให้และเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของเงินทุนแบ่งจ่ายสี่รอบช่วง 27 – 31 ตุลาคม แต่ไม่มีสมาชิกได้รับเงินก่อนบริษัทจะปิดตัวและปิดเว็บไซต์พร้อมขู่สมาชิกว่าหากแจ้งความจะระงับรหัสไม่จ่ายเงินให้ ขณะนี้มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 25 คนเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้วและคาดว่าจะมีผู้เสียหายอีกกว่า 1000 คนที่จะเข้าแจ้งความเพิ่มเติมด้วย
ที้งนี้ ตำรวจได้พยายามสืบสวนหลังมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ กระทั่งสืบทราบว่ากลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้มี นายทรงทรัพย์ การะภักดี , นายฉัตรคชายัน วงศ์ธนะพันธะพัชระ , นางประทุมทิพย์ ประเสริฐ และ นางสาวทิพย์ภาภร พรมประกอบ จึงออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ขณะนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว 2 ราย นายทรงทรัพย์ การะภักดี นายฉัตรคชายัน วงศ์ธนะพันธะพัชระ ส่วนอีก 2 รายอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว โดยผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่าจะเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือให้เร็วที่สุดเพื่อยึดอายัดทรัพย์ นำเงินส่งคืนสู่ผู้เสียหาย