พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.) เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อชี้แจงแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษายาเสพติด ปี 2562 โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ปปส. และผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย คณะกรรมการอำนวยการ ศอ.ปส. แม่ทัพภาค ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวม 940 คน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเน้นย้ำเรื่องการสกัดกั้นและป้องกันยาเสพติด ทุกรูปแบบไม่ให้ยาเสพติดแพร่ระบาดในประเทศ โดยเฉพาะในชุมชน โดยการสืบสวนสอบสวน ด้านการข่าว การบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ภาคสังคม ในการป้องกันปราบปราม กวาดล้างจับกุม การตั้งจุดตรวจสกัด/ การเร่งสร้างความรับรู้ กับประชาชนสถานศึกษา เยาวชน จนเกิดเป็นโรงเรียนสีขาว ชุมชนปลอดยาเสพติดตลอดจนร่วมมือกับ 10 ประเทศอาเซียน และภูมิภาคต่างๆในการป้องกันการลักลอบนำเข้าตามแนวชายแดน ตลอดจนลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งได้ร่วมมือกันกับทั้ง สปป.ลาว ,เมียรมาร์ , และเวียดนาม ,โดยในส่วนของเมียนมาร์ได้มีการกำหนดมาตราการร่วมกัน 7 มาตรการหลัก แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด / ส่วนการสกัดสารตั้งต้นยาเสพติด ได้มีการหารือกับทางจีน และอินเดีย เพื่อพยายามทำทุกช่องทางการสกัดการลักลอบนำเข้า
พร้อมระบุ รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติด การเร่งดำเนินการปฎิรูป/การจัดทำแผนแม่บทในการป้องกันในระยะยาว กล่าวว่าในส่วนของแผนยุทธศาสตร์นั้น ได้มีการจัดทำความไว้ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยมาตรฐานที่สำคัญๆต้องเร่งดำเนินการ โดยย้ำว่า การดำเนินการต่างๆต้องดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาทุกด้าน
ส่วนความคืบหน้า ปลดล๊อกกัญชานำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ทาง ปปส.ได้มีการศึกษาวิจัย รวมถึงแนวคิดของประเทศต่างๆที่เคยใช้มาศึกษาหาข้อดีและ ข้อเสีย เบื้องต้นได้มีการเสนอนายกรัฐมนตรีไปแล้ว เพื่อเตรียมผลักดันให้สอดคล้องกัน โดยขณะนี้ขั้นตอนต่างๆยังอยู่ระหว่างการศึกษา ผลการใช้ ผลข้างข้าง เพราะต้องดูตั้งแต่ขั้นตอนกาสกัดตัวยา การผสม การคิดค้นสูตรต่างๆ สกัดเป็นตัวยา ที่ต้องผ่านหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.เนื่องจากตัวกฎหมายจะทำให้เกิดการสกัด หรือลดปริมาณยาเสพติดลงได้ แต่การดำเนินการต้องทำให้เกิดการยอมรับก่อนจะผลักดัน
ด้าน นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ปปส กล่าวว่า ผลการศึกษาวิจัยยอมรับว่ามีทั้งประโยชน์ทางการแพทย์ แต่อีกด้านก็มีผลกระทบ อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่ามีการป่วยจากการใช้ เพราะพบสารเจือปน ยาฆ่าแมลง และผู้หญิงเข้ามาใช้กัญชามากขึ้น และมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ซึงปปส.ได้เสนอไปทั้งข้อดี และข้อเสียแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันยังเห็นด้วยกับการศึกษาวิจัยในการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ส่วนมาตรการควบคุมพื้นที่ปลูกนั้น ทาง สธ.อยู่ระหว่างการพิจารณาทั้งเรื่องของสายพันธ์ กลไกในการควบคุม ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา เพราะต้องเพิ่มความเข้มตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การจ่ายยาให้ผู้ป่วยต้องเป็นไปอย่างครอบคลุมทุกขั้นตอน.
