นายสนั่น บุญรอด กรรมการบริหารบริษัท บุญรอด อิมปอร์ต แอนด์ เอ็กซ์ปอร์ต เข้าพบพลตำรวจตรีปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังปรากฏหลักฐานว่าบริษัทไป เกี่ยวโยงกับการขบวนการขนส่งค้าไม้ข้ามชาติ เครือข่ายของนางสาวชลิดา สุพันธมาส หรือ เจ๊มู่หลาน หลังเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาชุดจับกุมเข้าตรวจค้นโกดัง และตู้คอนเทนเนอร์ พบไม้พะยุง /ไม้ประดู่ และไม้ชิงชันผิดกฎหมาย ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นของเครือข่ายนางสาวชลิดา หรือมู่หลาน
โดยนายสนั่น ยืนยันว่าตนและบริษัทไม่เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับการลักลอบขนหรือค้าไม้ผิดกฎหมายของเครือข่ายดังกล่าว ไม่ว่าจะกรณีที่พบไม้ผิดกฎหมาย ภายในโกดัง ท้องที่ สภ.บางปู จังหวัดสมุทรปราการ และที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และเชื่อว่ามีกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจชิปปิ้งเหมือนกันแอบอ้างชื่อบริษัทไปใช้ เพราะรู้ขั้นตอนดำเนินการในการส่งออกสินค้าผ่านกรมศุลกากรเป็นอย่างดี ตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่รัฐน่าจะมีส่วนรู้เห็น เพราะขั้นตอนการขนออกสินค้าออกนอกประเทศต้องผ่านการตรวจสอบโดยละเอียดจากเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้หลังเกิดเรื่องได้ตรวจสอบย้อนหลังของบริษัทยังพบว่าเคยถูกแอบอ้างนำชื่อบริษัทไปใช้ในการส่งออกสินค้าผิดกฎหมายมาแล้วถึง 5 ครั้ง วันนี้จึงนำเอกสารของทางบริษัทเข้ามามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบ พร้อมจะให้การกับพนักงานสอบสวน ถึงกลุ่มขบวนการดังกล่าวด้วย
ขณะที่พลตำรวจตรีปัญญา เปิดเผยว่าจากการสืบสวนสอบสวน พบว่ากรณีพบไม้ผิดกฎหมายในท้องที่ สภ.บางปู และท่าเรือแหลมฉบัง มีรายชื่อผู้ดำเนินการส่งออกสินค้าเป็นคนเดียว ส่วนการปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องของตัวแทนบริษัทบุญรอดก็เป็นสิทธิ์ที่กระทำได้ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวน แต่ไม้ผิดกฎหมายทั้งหมดที่พบในตู้คอนเทนเนอร์ ร้อยละ 80 เชื่อว่าเป็นของขบวนการของ ‘มู่หลาน’ ขณะนี้รอเพียงผลการตรวจดีเอ็นเอเทียบเคียงไม้ทั้ง2 ตู้จากกรมป่าไม้
ส่วนพนักงานประจำสำนักงานป่าไม้ จังหวัดสุรินทร์ มีความเกี่ยวข้องกับ ‘มู่หลาน’ ในลักษณะเป็นบุคคลใกล้ชิด และติดตาม ‘มู่หลาน’ ไปในหลายที่ อยู่ระหว่างประสานเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในช่วงเย็นวันนี้ที่ บก.ปทส.
