น.ส.จินตนา วงค์วิชา ผู้ต้องหาในคดีที่ร่วมกับพวกหลอกลวงผู้เสียหายกว่า 50 ราย ว่าสามารถพาไปทำงานที่ร้านนวดสปามัลดีฟได้ โดยคิดค่าดำเนินการรายละ 2-3 หมื่นบาท แต่เมื่อถึงกำหนดกลับไม่ได้เดินทางและไม่สามารถติดต่อกลุ่มของผู้ต้องหาได้ ถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมตัวได้ ที่หน้าบ้าน พื้นที่ ม.4 ต.สันต้นหมื้อ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่
จากกรณี เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 ได้มีผู้เสียหายกว่า 50 ราย เดินทางไปกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.จินตนา วงค์วิชา กับพวก ซึ่งได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายผ่านทางกลุ่มไลน์และเฟสบุ๊คที่เกี่ยวกับการจัดหางานว่าสามารถพาไปทำงานที่ร้านนวดสปาที่มัลดีฟได้ โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและค่าเดินทางรายละ 2-3 หมื่นบาท แต่พอถึงกำหนดวันเดินทางกลับไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหากับพวกได้ ซึ่งรวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกว่า 1,000,000 บาท
ต่อมาพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้รวมรวมพยานหลักฐานและยืนคำร้องต่อศาลขอออกมหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 3 หมาย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง”
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม ชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.จินตนา วงค์วิชา ผู้ต้องหาได้หลบหนีมากลบด่านอยู่บ้านพักตามภูมิลำเนาในอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนกระทั่งสามารถ จับกุมตัวได้ และ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป