พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมควบคุมมลพิษ และวิศวกร ตำรวจภูธรบางบ่อ และเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าร่วมตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลัง ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่า โรงงานแห่งนี้ มีการลักลอบนำเข้า ขยะอิเลกทรอนิกส์ มาเก็บไว้ และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่า ขยะอิเลกทรอนิกส์ดังกล่าวนั้น มีการนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่ง โรงงานดังกล่าว อยู่ใกล้กับบ้านเรือนประชาชน
ในการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ของทางโรงงานให้การต้อนรับ และนำคณะของ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบในพื้นที่ของโรงงาน พร้อมระบุว่า ชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์ที่พบในโรงงาน นั้น ไม่ได้นำเข้าจากต่างประเทศ รับซื้อมาจากบริษัทของคนไทย มีเอกสารรับซื้ออย่างถูกต้อง เมื่อได้มาแล้วจะนำเอามาแกะลวดทองแดงออก เพื่อนำไปขายต่อเพราะร้านที่รับซื้อ ลวดทองแดง จะไม่เอาพลาสติก ทางโรงงาน จึงต้องให้พนักงาน ทำการแกะและแยกชิ้นส่วนออก
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้นพบหลักฐานชัดเจน จากหีบห่อขยะอิเล็กทรอนิกส์ ภายในโรงงานแห่งนี้ ว่า เป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งสันนิษฐานว่ามีขบวนการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นอันตราย มากระจายเข้าสู่โรงงานแห่งนี้ เพื่อฟอกเป็นขยะในประเทศ ก่อนส่งไปกำจัดและทำลายอย่างผิดกฎหมาย และสร้างมลภาวะทางสิ่งแวดล้อมให้ประเทศไทย
เบื้องต้นดำเนินคดี 5 ข้อหา ตามพระราชบัญญัติอุตสาหกรรม ฐานครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งและประกอบกิจการโรงงานคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นอันตรายโดยไม่ได้อนุญาต และความผิดในการส่งออก-นำเข้าสินค้าอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะดำเนินคดีทั้งในฐานะบุคคลและนิติบุคคลกับนางสาวสุนิศา ลิ้มวานิชย์ เจ้าของโรงงาน
นอกจากนี้ที่ตั้งโรงงานภายในซอยแก้วไฟฟ้า มีข้อมูลว่า ถูกกำหนดเป็นพื้นที่สีเขียว ตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งตามหลักแล้วห้ามมีการจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้ถูกชาวบ้านในชุมชนร้องเรียนหลายครั้งผ่านหลายหน่วยงาน แต่โรงงานยังดำเนินการมาถึงปัจจุบัน ซึ่งจะขยายผลถึงหน่วยงานท้องถิ่นว่าเกี่ยวข้องหรือเข้าข่ายปล่อยปละละเลยหรือไม่