นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และเครือข่าย เข้าพบ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รีงสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เพื่อขอบคุณที่ทำคดีนี้เสร็จอย่างรวดเร็ว พร้อมสอบถามประเด็นข้อสงสัยต่าง ๆ และขอความมั่นใจเกี่ยวกับการดำเนินคดีเกี่ยวกับการล่าสัตว์ป่าหลังจากนี้ด้วยซึ่ง พลตำรวจเอกศรีวราห์ ได้สรุปภาพรวมคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทยฯ กับพวก ลักลอบล่าสัตว์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก โดยระบุว่า คดีนี้ มีการดำเนินคดีกับนายเปรมชัย และพวกรวมแล้ว 4 คน หลังมีหลักฐานเป็นซากสัตว์ อาวุธปืน และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่พบขณะเกิดเหตุ 28 รายการ จำนวนกว่า 200 ชิ้น และสอบปากคำพยานไปกว่า 51 ปาก จนสามารถสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องศาลได้แล้ว 9 ข้อหา ภายใน 36 วัน อาทิ ข้อหาร่วมกันล่าและพยายามล่าสัตว์ป่า / ร่วมกันซ่อนเร้นซากสัตว์ป่า / ร่วมกันเก็บของป่า / ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้ง ยังอยู่ระหว่างดำเนินคดีในข้อหา ติดสินบนเจ้าพนักงาน / ครอบครองงาช้าง และครอบครองอาวุธปืน รวมทั้ง ตรวจสอบเพิ่มเติมเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่า
พร้อมย้ำว่า พนักงานสอบสวนสามารถยืนยันความผิดของนายเปรมชัย ได้อย่างชัดเจน แม้จะไม่เจอสัตว์ป่ามีชีวิตพบเพียงซากสัตว์ แต่ได้มีการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ว่าเป็นสัตว์ที่ถูกยิง ถูกล่า และถูกชำแหละ แสดงให้เห็นถึงความผิดเกี่ยวกับการล่าสัตว์จริง นอกจากนี้ ส่วนตัวไม่น้อยใจที่ถูกจับตาจากเครือข่ายภาคประชาชน เนื่องจาก ได้กำลังใจจากนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีมาตลอด โดยจะทำงานอย่างเต็มที่ตามกรอบกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายนักศึกษา จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังขอให้พลตำรวจเอกศรีวราห์ ทบทวนการลงโทษ ร้อยตำรวจเอกสุมิตร บุญยะนิจ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ที่รับคำร้องทุกข์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ซึ่ง พลตำรวจเอกศรีวราห์ ระบุว่า การลงโทษมาจากการพิจารณาแล้วว่า เป็นการกระทำทั้งที่ไม่ได้มีกฎหมายบัญญัติ โดยได้ลงโทษภาคทัณฑ์สถานเบาสุด ซึ่งไม่ใช่เกิดจากอคติ หรือเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือบุคคลใด