พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ดำเนินการสืบสวน ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งจากการสืบสวนในเบื้องต้นพบว่า เจ้าหนี้มีพฤติการณ์การปล่อยเงินกู้นอกระบบและเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยคิดดอกเบี้ย ร้อยละ 10-20 ต่อเดือน ในพื้นที่เขตบางเขน เขตลาดพร้าว และพื้นที่ใกล้เคียง ทำมานานกว่า 10 ปี มีพฤติกรรมเอาเปรียบลูกหนี้ ด้วยการทำสัญญากู้ยืมโดยระบุจำนวนเงินในสัญญาสูงกว่าจำนวนเงินที่ลูกหนี้ได้รับจริง คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 10-20 บาทต่อเดือน
อีกทั้งเจ้าหนี้รายนี้ทำตัวเป็นผู้อิทธิพลในพื้นที่ มีพฤติการณ์ข่มขู่และกลั่นแกล้งลูกหนี้ อาศัยช่องว่างทางกฎหมายเป็นเครื่องมือในการเอารัดเอาเปรียบลูกหนี้ โดยการเข้าเป็นโจทก์ฟ้องร้องลูกหนี้ต่อศาลจำนวนมาก ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน ประมาณ 460 คดี มีผู้ถูกฟ้องรวมทั้งสิ้นจำนวน 852 ราย และมีทุนทรัพย์ในการฟ้องร้องดำเนินคดีประมาณ 30,762,658 บาท มูลหนี้ตามคำพิพากษาประมาณ 24,673,492 บาท นอกจากนี้ ยังได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติการณ์ของเจ้าหนี้รายนี้ปลูกบ้านพักอาศัยรุกล้ำคลองระบายน้ำ ซึ่งเป็นคลองเชื่อมต่อกับคลองหลุมไผ่ ที่เป็นคลองสาธารณประโยชน์
ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม นำโดย พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมตำรวจทหาร สนธิกำลังเข้าตรวจค้นตามหมายค้นรวม 3 จุด โดยพบหลักฐานที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหลายรายการที่บ้านเลขที่ 171 และพบเจ้าหนี้พักอาศัยอยู่และนำตรวจค้น ดังนี้ สมุดบัญชีรายชื่อลูกหนี้ การชำระเงิน สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร และบัตรเอทีเอ็มของลูกหนี้ สำเนาคำฟ้องที่ปรากฎชื่อเจ้าหนี้เป็นโจทก์ฟ้อง สำเนาหมายบังคับคดี เงินสดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่รวบรวมเอกสารได้ 11 กล่อง และ 13 ถุงดำ พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้ลงบันทึกประจำวันและส่งมอบศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป