มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และองค์กรเครือข่ายทั่วประเทศ ร่วมงานพิธีรำลึกถึงบิลลี่ และเสวนาวิชาการ เรื่อง การฆาตกรรมอำพรางศพนายพอละจี หรือบิลลี่ บุคคลใด ต้องรับผิดชอบ และเสวนาเรื่อง ปัญหาสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน กับการขึ้นทะเบียน “ผืนป่าแก่งกระจาน” เป็นมรดกโลก โดยมีการเชิญกลุ่มนักวิชาการ ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมเสวนา พุดคุย รวมถึง พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้ามาร่วมพูดคุยด้วย
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวเปิดใจในงานเสวนาครั้งนี้ บางช่วงบางตอน เกี่ยวข้องกับคดีของนายบิลลี่ ว่า ตนเองรู้สึกติดค้างอยู่ในใจเกี่ยวกับคดีการหายตัวไปของบิลลี่ ว่า คนๆหนึ่งจะหายตัวไปได้นานร่วม 5 ปีได้อย่างไร ทั้งที่มีลูกเล็กๆหลายคน จึงสั่งการให้คณะทำงานลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว จนกระทั่งพบหลักฐานสำคัญ ว่า นายบิลลี่ ถูกฆาตกรรม ซึ่งต้องชื่นชมคณะทำงานที่ ทำงานกันอย่างเต็มที่
รองอธิบดี DSI ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังงานเสวนา โดยระบุว่า พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เตรียมเรียกประชุมคณะทำงาน ในสัปดาห์นี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีของนายบิลลี่ ซึ่งพยานหลักฐานสำคัญต่างๆ นั้นถูกเก็บรวบรวมไว้หมดแล้ว แต่จะ ออกหมายเรียกใคร ได้ในเร็ววันนี้ ยังตอบไม่ได้ ต้องรอการประชุมติดตามความคืบหน้าครั้งล่าสุดที่จะถึงนี้ก่อน
พ.ต.ท.กรวัชร์ ตอบข้อซักถามสื่อที่ระบุถึงกรอบเวลา 3 เดือนคดีน่าจะคลี่คลาย โดยกล่าวปฏิเสธ ว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนกำหนดกรอบระยะเวลา 3 เดือน แต่ผู้ใหญ่เห็นว่า คดีนี้ อยู่ในความสนใจของประชาชน จึงมีการพูดกันว่า ในช่วง 3 เดือนนี้ น่าจะมีความคืบหน้าที่ชัดเจน ขึ้น ซึ่ง DSI ติดตามคดีนี้มานาน จึงต้องทำสำนวนคดีให้ละเอียดรอบคอบมากที่สุด