อาชญากรรม

DSI บุกค้น 8 จุด แหล่งนำสารพาราควอต ผสมในผลิตภัณฑ์ชีวภาพอินทรีย์หลอกขายประชาชน เสียหายกว่า 20 ล้านบา

วันที่ 23 กรกฎาคม กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการป้องกันและปราบปรามตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีการซื้อขายผลิตภัณฑ์สารชีวภาพอินทรีย์สำหรับกำจัดวัชพืช ผ่านทางสื่อโซเซียลมีเดีย โดยได้มีการบูรณาการร่วมกับกรมวิชาการเกษตร รวมทั้งได้ทำการล่อซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการตามที่ได้มีการลงขายในสื่อโซเซียลมีเดีย และได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไปตรวจกับกรมวิชาการเกษตร พบว่า ผลิตภัณฑ์สารชีวภัณฑ์กำจัดวัชพืชดังกล่าว มีส่วนผสมของสารเคมีพาราควอต ซึ่งปัจจุบันสารดังกล่าวเป็นสารที่ห้ามมิให้มีการผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ประกอบกับ เมื่อทำการตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ปรากฏว่า ไม่พบข้อมูลผลิตภัณฑ์ขึ้นทะเบียนไว้ ซึ่งลักษณะการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดฐาน ผลิต หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 43 ประกอบ มาตรา 47)

ต่อมา เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.30 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้บูรณาการร่วมกับ กรมวิชาการเกษตร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจค้นผู้ประกอบการที่ผลิตและจำหน่ายวัตถุอันตราย โดยนำสารพาราควอตผสมในผลิตภัณฑ์ชีวภาพอินทรีย์ หลอกขายให้ประชาชน พร้อมกันจำนวน 8 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 1 และต่างจังหวัด จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 3 จุด จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 4 จุด จากการเข้าตรวจค้น สามารถยึดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และเอกสารที่เกี่ยวข้องได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้อายัดอุปกรณ์การผลิตไว้เพื่อทำการตรวจสอบ ทั้งนี้สารดังกล่าว มีประชาชนหลงเชื่อสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ไปใช้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการประมาณการน่าเชื่อว่ามีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 20 ล้านบาท

โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้เร่งดำเนินคดีและสรุปสำนวนเพื่อส่งพนักงานอัยการฟ้องคดีต่อไป

ปัจจุบันคณะกรรมการวัตถุอันตรายได้มีการยกเลิก 2 สาร ได้แก่ สารพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ส่วนไกลโพเซต จำกัดการใช้ เนื่องจากประชาชนได้รับอันตรายจากการใช้สารดังกล่าว โดยมีประชาชนได้รับผลกระทบมากกว่า 5,000 รายต่อปี และเสียชีวิตมากกว่า 500 รายต่อปี รวมทั้งรัฐต้องเสียค่ารักษามากกว่า 20 ล้านบาทต่อปี

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *