อาชญากรรม

8แกนนำพท.รับข้อหาฝืนคสช.ปัดปลุกปั่นยันไม่เข้าข่ายยุบพรรค-มวลชนแห่ให้กำลังใจแน่น


นายวัฒนา เมืองสุข / นายจตุรนต์ ฉายแสง / นายชูศักดิ์ ศิรินิล /นายนพดล ปัทมะ / นายชัยเกษมนิติสิริ / นายภูมิธรรม เวชยชัย / พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ และ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณที่ใดๆที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคส. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองปราบปราม

หลังจาก ฝ่ายกฎหมาย คสช.
มาแจ้งความดำเนินคดี กับ 8 แกนนำของพรรคเพื่อไทย กรณี แถลงข่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาลและคสช.ในหัวข้อ 4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาลและคสชนำไปสู่ความมืดมนและอันตราย
ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

โดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล กล่าวก่อน เข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า วันนี้ ทั้ง8 คนมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมทั้งอยากทราบว่ามีข้อเท็จจริงอะไรที่กล่าวหาว่า ว่าพวกเรากระทำความผิด และได้มีการข้อสังเกตในคดีนี้ เห็นว่ามีความเร่งรีบ รวดรัดเป็นพิเศษ โดยทหารมาแจ้งความ ช่วง 2 ทุ่ม ของวันที่ 17 พ.ค. มีการสอบปากคำกันทั้งคืน และท้ายที่สุดสามารถที่จะออกหมายเรียก แกนนำพรรคเพื่อไทยทั้ง 8 คนได้ ในวันต่อมา ก็แสดงให้เห็นว่าคดีนี้มีการสั่งการให้กระทำโดยเร็ว เร่งรีบ

ส่วนการตั้งข้อหา มองว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมาตั้งข้อหาแบบนี้ เพราะ การที่พวกเราแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ก็ดำเนินการมาหลายครั้งแล้ว เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
การแถลงข่าว ต่อสื่อมวลชนไม่ใช่เป็นการปลุกปั่น ประชาชน กานตั้งข้อหาตาม ม.116 ต้องเป็นการกระทำนอกเหนือรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายในบ้านเมือง โดยใช้กำลัง ให้ปชช.ลุกฮือ ก่อความไม่สงบเรียบร้อย แต่พวกตนเองแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ไม่ได้ปลุกปั่นให้ประชาชน ต่อต้านรับบาลแต่อย่างใด โดยสรุปแล้วไม่เข้าข้อกฎหมายใดๆทั้งสิ้น

พร้อมกันนี้ ได้ฝากถึงพนักงารสอบสวนว่า ไม่ใช่ใครมาแจ้งข้อหา ก็ดำเนินการตามที่แจ้ง ควรต้องสอบสวนทวนความว่าผิดจริงหรือไม่ เราคิดว่า การใช้มาตรา 116 แบบนี้ เป็นเครื่องมือที่จะสกัดยับยั้งผู้คนไม่ให้แสดงความคิดเห็น

 

 

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชชยชัย กล่าวว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า มีความพยายามใช้กฎหมายอย่างไม่ยุติธรรม ไม่เสมอภาค เป็นประเด็นที่เราสงสัยและคลางแคลงใจว่า พรรคการเมือง ได้ดำเนินการตามสิทธิพลเมือง ในฐานะที่เป็นผู้แทนของประชาชน วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล เป็นสิ่งที่ทำได้หรือไม่ สิ่งเกิดขึ้น ในครั้งนี้ ถือว่าเราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง เราได้ทำในสิ่งที่ปฏิบัติกันมาตามปกติ เมื่อได้เจรจากับตำรวจแล้วเห็นว่า เราได้ถามแล้วไม่มีคำตอบที่ชัดเจน พรรคไม่ได้แถลงใดๆทั้งสิ้น ก็เป็นเรื่องของสมาชิกพรรค 3 คนที่ ดำเนินการ และใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญที่ให้ไว้ถือว่าสิ่งต่างๆป็นเรื่องที่พลเมืองประเทศไทย ในการวิจารณ์การทำงานของรับบาล หน้าที่ในการดูแลผลประโยขน์ของประชาชน สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้คิดว่าเป็นการใช้กฎหมายที่ กำจัดคนที่เห็นต่างอย่างไม่เป็นธรรม สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ ขณะนี้ประเทศไทยมีเรื่องของความขัดแย้งในสังคมไทย ที่รอการแก้ไข แต่ขณะนี้กระบวนการ ไม่ยุติธรรม สร้างปัญหาทำให้ความขัดแย้งยิ่งบานปลาย หาข้อยุติไม่ได้ ขอให้เป็นอุทธาหรณ์ว่า เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทั้งหมดทั้งฝ่ายนโยบายและฝ่ายปฏิบัติ พึงจะทราบว่า การที่ท่านได้ใช้กฎหมายอย่างไม่ยุติธรรม ไม่เสมอภาค เป็นเครื่องมือทางการเมือง กับบุคคลที่ ประชาชน ล้วนแล้วแต่เป็นสิง่ที่ไม่ชอบธรรม ไม่ถูกต้องและต้องรับผิดชอบ

 

ส่วนมีหลายฝ่ายมีความพยายาม จะโยงไปถึงเรื่องของการยุบพรรคเพื่อไทย นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า วันนี้ มานั่งดูทุกเรื่อง ก็ยังไม่เข้าข่าย การยุบพรรค เพราะมีสมาชิกเพียงแค่ 3 คน เท่าน้ั้น ไปสะท้อนให้ เห็นว่า รัฐบาลทำงานมา 4 ปี แล้ว มีปัญหาแล้วไม่ประสบความสำเร็จ แล้วจะกลายเป็นเรื่องล้มล้างก่อให้เกิดความวุ่นวาย แล้วยุบพรรคเพื่อไทยได้ ไม่คิดว่ารัฐบาลจะกล้าทำสิ่งนี้ เพราะทุกอย่างอยู่ในสายตาประชาชน

 

หลังจาก ให้สัมภาษณ์แล้วเสร็จทั้ง 8 คนได้เดินทางเข้าไปพบพนักงานสอบสวนภายในห้องประชุมกองปราบปรามโดยมีการแยกสอบสวนขณะที่พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุลรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้ามาร่วมสอบปากคำ 8 แกนนำของพรรคเพื่อไทยด้วยตนเอง

สำหรับบรรยากาศ ที่ปราบปราม ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีแกนนำ นปช. และมวลชคน จำนวนมาก เดินทางมารอให้กำลัง 8 แกนนำพรรคเพื่อไทย ขณะที่ การดูแลความเรียบร้อยบริเวณกองปราบปราม ตั้งแต่ทางเข้า มีกำลังตำรวจ ตรวจตรารถยนต์ที่จะเข้ามาในพื้นที่อย่างเข้มงวด

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *