อาชญากรรม

2สามี-ภรรยา ชาวกัมพูชา ร้องภาค 1 ตกเป็นผู้ต้องหาแจ้งความเท็จ โดยไม่ไ้ด้รับความเป็นธรรม

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำ 2 สามี-ภรรยาสัญชาติกัมพูชา ที่เป็นผู้เสียหายในคดีถูกยักยอกทรัพย์ 18.5 ล้าน เมื่อปี 2557 ที่สภ.บางใหญ่ เข้าร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1โดยมี พ.ต.อ.วัชรินทร์ ประสพดี รองผู้บังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 เป็นผู้มารับหนังสือแทน โดยขอให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงพนักงานสอบสวน ร.ต.ท.บุญทัน พันธจันทร์ และ พ.ต.ท.กริชนันท์ อินชู เนื่องจากตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการนำสำนวนการสอบสวนของผู้เสียหายคดียักยอกทรัพย์ ไปให้คู่กรณี เนื่องจากปรากฎว่ามีเอกสารสำนวนการสอบสวนทั้งที่ยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จไปปรากฎเป็นหลักฐานเพื่อใช้ฟ้องร้องผู้เสียหายฐานแจ้งความเท็จ และคดีดังกล่าวศาลจังหวัดนนทบุรี ได้ประทับรับฟ้องและอยู่ในชั้นสืบพยาน

นายอัจฉริยะ ระบุว่า เดิมผู้เสียหายทั้ง 2 คน เป็นนักธุรกิจนำเข้าเสื้อผ้าเด็กส่งจากปอยเปต มาที่ประเทศไทยโดยให้หลานสาวเป็นผู้บริหารจัดการส่งต่อให้ลูกค้า ซึ่งเริ่มทำธุกิจกับหลานสาวมาตั้งแต่ปี 2549 จนกระทั่งปี 2557 ผู้เสียหายได้มาตรวจสินค้าในโกดัง พบว่าสินค้าจำนวนมากถูกขายออกไป แต่กลับไม่ได้รับเงินจากสินค้านั้น ซึ่งมีมูลค่ากว่า 18 ล้าน 5 แสนบาท โดยหลานสาวอ้างว่า ลูกค้ายังไม่ชำระเงิน แต่จากการสอบถามลูกค้าที่สั่งซื้อกลับพบว่ามีการชำระเงินทั้งหมดแล้ว และมีเอกสารยืนยัน จึงตัดสินใจฟ้องร้องดำเนินคดี ฐานยักยอกทรัพย์ และเข้าร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.บุญทัน ที่สภ.บางใหญ่ ก่อนที่ พ.ต.ท.กริชนันท์ จะให้ ร.ต.ท.บุญทัน นำแฟ้มสำนวนการสอบสวน มามอบให้ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีการเจรจากับผู้เสียหาย และกับร้องเวรเจ้าของสำนวนคดีว่า ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ แต่ต่อมาสำนวนการสอบสวนในคดีนี้กลับไปอยู่ในมือทนายความหลานสาวผู้เสียหาย และถูกนำไปใช้ฟ้องร้องฐานแจ้งความเท็จ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ได้ประสานข้อมูลกับพล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 เพื่อเรียกตำรวจที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีการนำสำนวนมาส่งที่ตำรวจภูธรภาค 1 จริง จึงตั้งข้อสังเกตว่ามีการนำสำนวนไปให้คู่กรณีได้อย่างไร ทั้งนี้จึงขอให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงตำรวจทั้ง 2 นาย และสัปดาห์จะยื่นฟ้องต่อศาลคดีทุจริตและประพฤติชอบกลาง ในกรณีดังกล่าวด้วย โดยพ.ต.อ.วัชรินทร์ จะรับเรื่องไปรายงานต่อผู้บัญชาการ

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *