อาชญากรรม

เหยื่อถูกตุ๋นลงทุนแชร์ข้าว ร้องDSI หลังพบเสียหายหลักพันล้านบาท

กลุ่มข้าราชการเกษียณ และประชาชนกว่า 100 คน เดินทางมา ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อแจ้งความกรณีเสียหายจากการถูกหลอกลงทุนซื้อข้าวกอระ มีมูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท โดยมีนายปิยะศิริ วัฒนวรางกรู ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนครั้งนี้

โดยนางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้ก่อตั้งองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่ เปิดเผยว่า จากการรวบรวมรายชื่อผู้เสียหายมีผู้ร่วมลงชื่อแจ้งความเอาผิดแล้วเกือบ 1,000 คน มีการเข้าร้องทุกข์กับตำรวจ 44 สถานี ใน 21 จังหวัด โดยตำรวจได้ทยอยออกหมายเรียกผู้ที่ถูกกล่าวหาเข้าให้ปากคำแล้ว ส่วนการตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นพบว่า เฉพาะการลงทุนในเฟสแรกมีมูลค่าความเสียหาย 4,012 ล้านบาท จากการลงทุนซื้อข้าวกอระ 750,000 ยูนิต โดยพบว่าบริษัทดังกล่าวยังพยายามเปิดบริษัทใหม่เพื่อชักชวนผู้เสียหายลงทุนแบบเดิมอีก 2 บริษัท โดยมีผู้หลงเชื่อลงทุนอีกจำนวนหนึ่งแต่ยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดได้ ซึ่งต่อมามีการนำเสนอข่าวเรื่องนี้ก็เริ่มมีผู้เสียหายเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อสูงถึงหลักหมื่นคน ทั้งนี้ที่มาร้องทุกข์กับดีเอสไอเพราะต้องการให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ดำเนินการหลอกลงทุน และอยากให้มีการเร่งเยียวยาให้ผู้เสียหาย และ อยากให้มีมาตรการป้องกันจากภาครัฐที่มีความชัดเจนรัดกุม

ด้านนายปิยะสิริ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการทำหนังสือร้องทุกข์กับดีเอสไอมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ไม่มีผู้มาร้องเนื่องจากแชร์ยังไม่แตกจึงทำได้เพียงให้สืบสวนรวบรวมข้อมูลไว้ก่อน แต่อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าการกระทำของบริษัทนี้เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดฐานแชร์ลูกโซ่ชัดเจน ซึ่งหลังจากที่ผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์กับทางดีเอสไอในวันนี้ จะสั่งการให้พนักงานสอบสวน ติดต่อไปยังบริษัทผู้ถูกกล่าวหาให้เข้าให้ข้อมูลโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันจะเริ่มสอบสวนปากคำผู้เสียหายทันที โดยยืนยันว่าพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายทุกคน


ทั้งนี้ทางดีเอสไอจะประสานไปยัง สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เพื่อขอให้ตรวจสอบการออกใบอนุญาต สคบ.ให้กับ 1 ใน 3 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วย

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *