ศาลอาญารัชดา เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดี ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล หรือ นพรุฒ แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน, นายวันชัย นาพุทธา, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช., นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนพ.เหวง โตจิราการ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไปแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138
กรณีนำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคน ไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อปี 50 ซึ่งระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว มีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ ซึ่งนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ได้ใช้ไม้เสาธง ตีประทุษร้ายร่างกาย ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ นามจันทร์เจียม เป็นเหตุให้กระดูกข้อมือแตกเป็นอันตรายสาหัส
คดีนี้ ศาลอุทรณ์มีคำพิพากษาให้จำคุก นายนพรุจ จำเลยที่ 1 จำคุกเป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ฯ ส่วน นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และนพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 แก้โทษสั่งจำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือน ขณะ นายวีระศักดิ์ และนายวันชัย จำเลยที่ 2-3 ศาลชั้นต้นได้ยกฟ้อง
ในวันนี้ จำเลยที่4-7ซึ่งเป็นแกนนำ นปช.ทั้ง 4 คน เดินทางมาฟังคำพิพากษาครบ แต่นายนพรุจ จำเลยที่1 ไม่ได้เดินทางมาศาล ศาลจึงได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 30 เม.ย.เวลา 09.00 น.และสั่งให้พนักงานอัยการโจทย์ไปสืบหาที่อยู่ของจำเลยที่ 1 ภายใน 15 วัน เพื่อนพตัวมาขึ้นศาล
ด้าน นายณัฐวุฒิ ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับ นายนพรุจ เป็นการส่วนตัวทั้งในชีวิตประจำวันและการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ที่ภรรยาของตนทำหน้าที่เป็นนายประกันให้ เนื่องจากในวันตัดสินของศาลชั้นต้น นายนพรุจถูกตัดสินสั่งจำคุก 2ปี8เดือน แต่นายนพรุจ แจ้งไม่มีนายประกันยื่นประกันตัว ในฐานะที่เป็นจำเลยในคดีเดียวกันจึงช่วยเหลือ แต่หลังจากได้ประกันตัวในศาลชั้นต้น ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย