นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ระบุว่าจากการตรวจสอบระดับน้ำภายในถ้ำพบว่าที่บริเวณโถง 1 โถง 2 และ โถง 3 ลดลงเป็นที่น่าพอใจ บางจุดสามารถสามารถเดินได้ อย่างสบายๆ แต่จุดที่ยังเป็นปัญหาคือบริเวณสามแยกเป็นต้นไป ที่ระดับน้ำยังมีอยู่มาก เพราะตรงนั้นเป็นไซฟ่อน แบบลดเลี้ยวและระดับน้ำค่อนข้างสูง ตามแผนเดิมคือหากจะให้เด็กดำน้ำออกมา จะมีจุดวิกฤตที่ แคบมากและเด็กต้องดำออกมาคนเดียว ในระดับน้ำที่ลึกและเป็นระยะทางยาว จุดดังกล่าว หน่วยซีล ไม่สามารถประกบได้ ซึ่งประเมินแล้วเป็นอันตรายกับตัวเด็ก จึงยังไม่สามารถพาน้องๆออกมา ในช่วงนี้ ได้
ส่วน สภาพอากาศหรือออกซิเจนภายในถ้ำ ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่าลดระดับลง เนื่องจากขณะนี้มีคนเข้าไปปฏิบัติงานในถ้ำจำนวนมากทำให้อากาศ น้อยลง จึงต้องมีการเติมออกซิเจนเข้าไปซึ่งจะทำได้ 2 วิธีคือนำทางเข้าไปให้แต่ละคนใช้สำหรับหายใจ และการเติมที่ระบบอัดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปภายในถ้ำ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมสายอากาศออกซิเจน ที่มีความยาว 5 กิโลเมตร ลากเข้าไปด้านในถ้ำเพื่อเติมอากาศ
ส่วนการต่อสายโทรศัพท์ เข้าไปด้านในถ้ำ เพื่อให้น้องน้องๆทีมหมูป่า ได้คุยโทรศัพท์กับญาติขณะนี้ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ซึ่งสายอยู่บริเวณสามแยก
สำหรับการค้นหาโครงด้านบน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังดำเนินการอยู่ และยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาพิกัดของโพรงเหนือถ้ำได้อย่างง่าย ดูในวันนี้จะมีอุปกรณ์การจับ แรงสั่นสะเทือนซึ่งจะนำไปใช้ในการเคาะด้านใน ให้มีการสั่นสะเทือน
ทั้งนี้มีการประเมินว่าอาจจะนำตัวน้องๆทุกคนออกมา นอกตัวถ้ำ ตามทฤษฎีคิดว่าเวลากลางคืนน่าจะเหมาะสมที่สุดเนื่องจาก น้องทุกคน อยู่ในถ้ำมาเป็นเวลานาน เมื่อออกมาในเวลากลางคืน สภาพร่างกายจะได้ไม่ต้องปรับตัวมาก
อย่างไรก็ตามได้มีการสอบถามกับเจ้าหน้าที่หน่วยซีลพบว่าเด็กๆมีอาการที่ผ่อนคลาย มากขึ้น แต่มี 3 คนที่ยังมีอาการอ่อนเพลีย ซึ่งทั้งหมดมีความคาดหวังว่าจะได้ออกมาพบกับครอบครัว