พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผู้บังคับการตํารวจจราจร(ผบก.จร.) และ พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า รองผบก.น.4 แถลงข่าวการเปิดใช้สะพานข้ามแยกลำสาลี ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
โดยพล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า การเปิดสะพานข้ามแยกดังกล่าว จะเป็นการขยายช่องทางจราจร จากเดิม ที่วิ่งได้เพียง 3 ช่องทาง คือ 2 ช่องทางหลัก และ ช่องทางรถสวนเลน 1 ช่องทาง กลายเป็น 5 ช่องทาง ซึ่งจะช่วยบรรเทาการจราจรบริเวณแยกลำสาลี และแยกบางกะปิ ที่เพิ่งมีการปิดสะพานไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ทั้งนี้ หากผู้ใช้รถขับรถลงสะพานไปแล้ว ก็จะพบกับสภาพถนนที่มีลักษณะเป็นคอขวด ที่หน้าสน.หัวหมาก เบื้องต้น ก็ได้สั่งการให้มีการปรับสภาพถนนให้มีลักษณะ ค่อย ๆ บีบเส้นทางเป็นคอขวด พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปบริหารจัดการการจราจรตามสี่แยก โดยให้พิจารณาจากปริมาณรถที่ติดขัดสะสม เช่นหากพบว่าฝั่งใดที่มีรถมาก ก็สั่งให้ปรับให้ฝั่งที่มีรถมาก มีการระบายรถในเวลาที่นานขึ้น
ทั้งนี้ เชื่อว่าการเปิดสะพานแห่งนี้ จะช่วยระบายรถที่สัญจรมาจากกรุงเทพฯฝั่งเหนือ โดยเฉพาะที่มาจากย่านกรุงเทพกรีฑา
อย่างไรก็ตาม สำหรับสภาพการจราจรในภาพรวมของกทม. เนื่องจากที่ผ่านมามีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีปริมาณการใช้รถในท้องถนน เพียง20-30% จากสภาวะปกติ
แต่หลังจากที่เริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการ รถก็เริ่มเพิ่มขึ้นเป็น50% และคาดว่า ในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ค.63 ) ซึ่งเป็นวันเปิดทำงานปกติหลังวันหยุดรถจะเพิ่มปริมาณเป็น60% เนื่องจากประชาชน เริ่มทำงานที่บ้านลดน้อยลงประกอบกับห้างสรรพสินค้าเริ่มจะเตรียมเปิดให้บริการตามปกติ
สำหรับการตั้งด่านตรวจโควิด-19 ที่เคยมี 13 จุดในพื้นที่กทม. ขณะนี้ได้มีการยกเลิกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลมีการผ่อนผันมากขึ้น แต่ในส่วนของด่านตรวจเคอร์ฟิว ยังคงตั้งด่านตรวจอยู่ 52 ด่านทั่วกทม. ส่วนกำลังพลที่เหลือ ก็ได้มีการปรับไปเป็นชุดตรวจเคลื่อนที่เร็ว
