นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค7 พร้อมคณะร่วมแถลงความคืบหน้า คดีนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม4คน หลังรับสำนวนจากพนักงานสอบสวนใน10ข้อหา อาทิ ข้อหาร่วมกันล่าและพยายามล่าสัตว์ป่า / ร่วมกันซ่อนเร้นซากสัตว์ป่า / ร่วมกันเก็บของป่า / ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา รวมถึงครบ7วันตามที่ อธิบดีอัยการภาค7ระบุไว้ก่อนหน้านี้
ซึ่ง อธิบดีอัยการภาค7 ว่า สำนวนที่ตำรวจส่งมา จำนวน 857 หน้า คณะทำงานได้อ่านรายละเอียดในสำนวนทั้งหมดแล้วจึงสั่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ทำการสอบสวนเพิ่มเติมใน 3ประเด็น อาทิ พฤติการณ์ รายงานการตรวจบางฉบับที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ส่งเข้ามา โดยกำชับเร่งรัดให้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมภายใน วันที่ 26มีนาคม เพื่อให้เกิดความรอบครอบรัดกุม เนื่องจากผู้ต้องหาให้การภาคเสธ พร้อมคาดว่า หากพนักงานสอบสวนส่งรายงานครบถ้วนทุกประเด็น จะสามารถสั่งคดีได้ทันก่อนครบกำหนดฝากขัง
ส่วนหากหลังจากนี้ นายเปรมชัยและพวก จะยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมก็สามารถทำได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคณะทำงานที่จะเป็นผู้พิจารณา โดยยืนยันว่าไม่สามารถประวิงเวลาในการสั่งคดีของพนักงานอัยการได้ อีกทั้งคดีนี้เป็นเพียงคดีทั่วไป ที่มีอัตราโทษไม่สูง เพียงผู้ต้องหามีฐานะทางสังคม จึงไม่มีความกดดันในการทำคดี เพราะพนักงานอัยมีประสบการณ์ในการพิจารณา และมั่นใจจะทำคดีให้สามารถตอบสังคมได้ว่าหลังจากนี้จะมีคำสั่งเช่นใด ส่วนนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ชี้แจงขั้นตอนการทำงานของพนักงานอัยการ ว่าจะต้องพิจารณาสำนวนของพนักงานสอบสวน ก่อนมีความเห็นเสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดี และเมื่อไหร่ก็ตามที่พนักงานอัยการมีคำสั่งสอบสวนคดีเพิ่มเติมไม่ว่าจะคดีใดก็ตามถือเป็นประเด็นสำคัญในคดีเสมอ
ส่วนกรณี พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ที่ตำรวจไม่ส่งฟ้ง เนื่องจากตามกฏหมายบังคับ ใช้กับสัตว์เลี้ยงเลี้ยงเท่านั้น และยืนยันว่าทางพนักงานอัยการจะทำงานให้อย่างเร่งรัดรวดเร็วที่สุด
