นายยงยุทธ สิทธิธัญกิจ อธิบดีสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร นายพรชัย บุญถนอม อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 นางสาวณภัสนันท์ กุลจิราธราสิริ อัยการประจำกอง สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 และ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้าการสั่งคดีผู้ต้องหาในเครือเมจิกสกิน
คดีนี้ พนักงานสอบสวน สรุปสำนวน มีความเห็นสั่งฟ้อง บริษัท เมจิกสกิน จำกัด , นายกร พวงสน , นางวรรณภา พวงสน (ภรรยาของนายกร) น.ส.ตรีชฎา หรือส้ม , บริษัท ฮานิวโคเรีย จำกัด และน.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 , พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558โดยผู้ต้องหาที่ 1-4 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลที่บิดเบือน หรือข้อมูลที่เป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน , ผลิตเพื่อจำหน่ายเครื่องสำอางปลอม รับจ้างผลิตเครื่องสำอาง
นายพรชัย บุญถนอม อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 กล่าวว่า ในการสรุปความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาต้องมี พยานหลักฐานที่ครบถ้วนสมบูรณ์พอที่จะมีความเห็นสั่งคดีได้ไปในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งคดีนี้มีการกล่าวหา เครื่องสำอางว่าเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน พนักงานสอบสวน ได้ ส่งเครื่องสำอางไปตรวจ ทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่เป็นการหาสารพิษในส่วนผสมของเครื่องสำอาง แต่ไม่ตรวจหา สารประกอบ และสรรพคุณ พี่ชี้ให้อัยการเห็นว่าเครื่องสำอางดังกล่าวนั้น มีการอวดอ้างเกินจริง อย่างไร จึงสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมในประเด็นนี้เพราะเป็นสาระสำคัญทางคดี
คดีนี้ ในส่วนของนายกร และนางวรรณภา พวงสน 2 สามีภรรยา จะครบกำหนด ฝากขัง ผัดที่ 4 ในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อการสั่งคดียังไม่แล้วเสร็จ อัยการจึงต้องทำหนังสือแจ้งไปยังศาล เพื่อขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปก่อน และนัดให้มาฟังคำสั่ง ทางคดี ในวันที่ 12 ก.ค.นี้
ส่วน นางสาวตรีชฎา และ นางสาวปาจรีย์ ได้รับการประกันตัวไปในชั้นพนักงานสอบสวน หลังจาก พนักงานอัยการ มีความเห็นทางคดีจะนัดให้ทั้งหมดมาฟังคำสั่ง ต่อไป