นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) , นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรค และ น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ที่ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1-3 ในคดีที่ คสช. แจ้งความดำเนินคดี พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกต่อประชาชน
จากกรณีเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 จัดรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ในเพจอนาคตใหม่ – The Future We Want และเพจ Thanathorn Juangroongruangkit วิจารณ์กระแสข่าวกรณีพลังดูดของ คสช.
นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า วันนี้ นายธนาธร ติดภารกิจ ที่ กกต. จึงมอบหมายให้ตนเองมา ฟังคำสั่ง ว่าอัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่ ส่วน แนวทางการต่อสู้คดี ในประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ นั้น เป็นการนำความจริงมาเปิดเผย ซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ ดังกล่าว ไม่ส่งผลให้สังคมเกิดความวุ่นวาย แต่อย่างใด และในชั้นพนักงานสอบสวน ได้เคยรองขอควาทเป็นธรรมให้สอบพยานเพิ่ม 2-3ปาก แต่พนักงานสอบสวน ก็ไม่มีการสอบพยานตามที่ ผู้ถูกกล่าวหาเสนอไปแต่อย่างใด
ทางด้าน นายวิเชียร ถนอมพิชัย อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า หลังจากอัยการรับสำนวนการสอบสวนมาจาก พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ(บก.ปอท.) ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณา สำนวน โดย คณะทำงานอัยการ ได้พิจารณาแล้วเห็นควรให้ พนักงานสอบสวน ปอท. สอบเพิ่มเติม ใน 3 ประเด็น ทั้งการสอบพยานบุคคล และพยานเอกสาร ซึ่งขณะนี้ ยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ โดยพนักงานอัยการได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวน ปอท.ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมกลับมาที่คณะทำงานอัยการไม่เกินวันที่ 30 เมษายน 2562 ทั้งนี้ พนักงานอัยการได้นัดฟังคำสั่งคดีอีกครั้งในวันที่ 26 เมษายน 2562
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาเตรียมที่จะยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเข้ามาในชั้นพนักงานอัยการซึ่งได้มีการประสานว่า จะ ยื่นหนังสือเข้ามาภายในสัปดาห์นี้