พนักงานสอบสวนสน.ปทุมวันออกหมายเรียกพยานและผู้ที่อยู่เหตุการณ์ มากกว่า12คน เข้าสอบปากคำ อาทิ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อาจารย์เวรประจำวัน รุ่นพี่12คน รวมถึงรุ่นน้องที่อยู่ในเหตุการณ์30คน ส่วนจะมีการออกหมายจับได้ทันทีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานรวมทั้งต้องรอผลการรักษาจากโรงพยาบาลหัวเฉียวและผลการชันสูตรพลิกศพจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อีกทั้งต้องสอบปากคำให้แล้วเสร็จว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใดเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ
พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวันระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวนเชิญบุคคลเข้ามาให้ปากคำบ้างเนื่องจากพยานที่เกี่ยวข้องหลายปาก ร่วมพิธีทางศาสนาอยู่ที่จ.บุรีรัมย์ ซึ่งยังไม่สามารถเข้าให้การได้ ส่วนกรณีที่มีพยานบางราย เกรงกลัวการเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำนั้น ทางตำรวจยืนยันว่าจะให้ความปลอดภัยและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากมีการสอบปากคำแล้วพบว่าบุคคใดให้ข้อมูลไม่ตรงกันก็จะถือว่าเข้าฝ่ายให้การเท็จกับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งหากพบว่าสถาบันมีการปกปิดข้อมูล โดยเฉพาะเรื่องตัวเลขและจำนวนของผู้ที่เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมกิจกรรมตำรวจก็จะแจ้งความดำเนินคดีเช่นเดียวกัน ทั้งนี้จึงอยากให้ทุกคนช่วยให้ข้อมูลเพื่อทำความจริงให้ปรากฏและหาผู้กระทำผิดถูกลงโทษ
ส่วนการพิจารณาแจ้งข้อบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาลหรือไม่นั้น พ.ต.อ.พันษาผกก.สน.ปทุมวัน ระบุว่า ทางสถาบันกำลังพิจารณาข้อกฎหมายโดยตำรวจพร้อมที่จะดำเนินการทันทีหากมีการร้องขอ ส่วนการฟ้องแพ่งสามารถทำได้ โดยขณะนี้ทนายความของผู้เสียหายอยู่ระหว่างดำเนินการ
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย อัจฉริยเมธากร รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอุเทนถวายเปิดเผยว่า ตนเองไม่มีรับมอบหมายในการนำตัวรุ่นพี่ทั้ง12 มามอบตัวกับตำรวจ โดยในวันนี้อยู่ระหว่างประชุมกับคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จเกี่ยวกับการกระทำความผิดก่อนจะยื่นเสนออธิการบดีพิจารณโทษ ส่วนนการพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดข้อหาบุกรุกนั้นทางคณะกรรมการจะมีการนัดประชุมเพื่อพิจารณาภายหลัง