นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายในเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.เพื่อดำเนินคดี นายชัยยุทธ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
สืบเนื่องจากกรณีที่ โฆษกกรมศุลกากร แถลงข่าวประจำสัปดาห์ พร้อมกับชี้แจงและตอบคำถามสื่อมวลชนว่า กรมการค้าภายในได้อนุญาตให้บริษัทเอกชนส่งออกหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนถึง 330 ตัน ซึ่งภายหลังทางกรมศุลกากรก็ได้ออกมาชี้แจงว่าข้อมูลมีความคลาดเคลื่อนไปบ้าง
โดยนายวิชัย ระบุว่าการมาแจ้งความครั้งนี้ ก็เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและชื่อเสียงของหน่วยงาน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานของรัฐแต่อย่างใด
ทั้งนี้มองว่า การออกมาแถลงข่าวของโฆษกกรมศุลกากร เป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนกับความจริงหลายประการ เช่น การพิจารณาอนุญาตให้ส่งออกหน้ากากอนามัย จะระบุเป็นชิ้น ไม่ใช่ระบุเป็นน้ำหนัก อีกทั้งตัวเลขการส่งออกดังกล่าวเป็นตัวเลขจากพิกัดศุลกากร ซึ่งรวมสินค้าชนิดอื่นนอกจากหน้ากากอนามัยอยู่ด้วย ในระหว่างเดือนมกราคม ถึง 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะมีประกาศคณะกรรมการกลาง ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2563 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 มีผลบังคับใช้ 5 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่องการควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งหน้ากากอนามัย เพื่อลดการขาดแคลนหน้ากากอนามัยในประเทศ ดังนั้นการแถลงข่าวของโฆษกกรมศุลกากร ทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงแก่กรมการค้าภายใน
นอกจากนี้ อธิบดีกรมการค้าภายในยังเปิดเผยว่า หลังจากมีการประกาศให้ควบคุมการส่งออกหน้ากากอนามัย มีบริษัทเอกชนหลายแห่ง ทำเรื่องขอส่งออกหน้ากากอนามัยทั้งหมด 53 ล้านอัน แต่อนุญาตเพียงแค่ 12 ล้านอันเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ส่งออกกว่า 41 ล้านอัน โดยในส่วนที่ไม่อนุญาต เป็นหน้ากากอนามัยที่ไม่ได้ใช้ในประเทศ กับ หน้ากากที่มีลิขสิทธิ์การค้า