นางสาวจานีล เนรมิตรบวร อายุ 40 ปี เดินทางเข้าขอคำปรึกษาข้อกฎหมาย กับ นาย เดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ หลังถูกสามีชาวต่างชาติทำร้ายร่างกาย และบุกรุกทำลายทรัพย์สินในบ้านพัก
นางสาวจานีล เปิดเผยว่า ตนเองคบหากับสามีชาวต่างชาติสัญชาติอังกฤษ มาเกือบ 10 ปี จนมีบุตรสาวด้วยกัน 1 คนอายุ 7 ขวบ และที่ผ่านมา สามีเป็นคนอารมณ์ร้อน มักจะทำร้ายร่างกายเรื่อยมา ที่หนักสุด เมื่อปี 2560 สามีชาวอังกฤษ ได้ทำร้ายร่างกายจนเนื้อตัวเขียวช้ำใบหน้าบวมปูด จนต้อง แจ้งความดำเนินคดีไว้ ที่ สน.ลาดกระบัง และเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา สามีชาวต่างชาติ ได้บุกเข้ามาทำลายทรัพย์สินในบ้านพัก จึงเข้าไปแจ้งความดำเนินคดี
นอกจากนี้ ตนเองได้ไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กับตำรวจท่องเที่ยว ไว้แล้วก่อนหน้านี้ เพื่อให้เร่งติดตามคดี จนศาลจังหวัดมีนบุรี ออกหมายจับไว้เมื่อวันที่20 ก.ค. ที่ผ่านมา
ในข้อหาบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุขและทำให้เสียทรัพย์ ตำรวจคุมตัวฝากขัง และผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว โดยศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ในวันนี้ จะมาขอคำปรึกษา กับทนายเดชา เพื่อหาแนวทางให้อดีตสามีมารับผิดชอบเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรสาววัย 7ขวบ
ทางด้าน ทนายเดชา ระบุว่า หลังจากได้รับการปรึกษาจากผู้เสียหายแล้ว จะแบ่งคดีเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือคดีอาญาที่ มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ 2 คดีคือ คดีทำร้ายร่างกายที่ผ่านมากว่า1 ปี ยังไม่สามารถแจ้งข้อหากับผู้ต้องหา รายนี้ได้ก็จะไปติดตามคดีนี้ให้ ที่ สน.ลาดกระบัง และคดีบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ มี ผู้ต้องหา ได้รับการประกันตัวไปแล้ว
ส่วนที่ 2 คือ การเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรที่ต้องยื่นฟ้องคดีที่ศาลเยาวชนและครออบครัวกลางมีคำสั่ง ให้สามีชาวอังกฤษ เป็นพ่อของบุตรสาววัย 7 ขวบที่อยู่ในความดูแลของผู้เสียหาย เพราะก่อนหน้านี้ เคยส่งเสียให้เงินค่าเลี้ยงดูบุตรเดือนละ3-4 แสนบาท แต่ตอนนี้ สามีไม่ส่งเสียเงินให้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน
ทั้งนี้ นางสาวจานีล ยังฝากเตือนสาวไทย ที่คิดจะมีสามีชาวต่างชาติ ให้ดูและศึกษากันให้ดีเพราะบางคนอารมณ์ร้อน และหวังที่จะหาประโยชน์จากเรา เมื่อหมดประโยชน์ แม้จะมีลูกด้วยกันก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะเห็นความสำคัญของตัวเราอีกต่อไป