พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้เชิญ นางสาวยุพาพร พันธัง อายุ 53 ปี หรือ ป้ามหาภัย ที่ ตระเวนขอเงินประชาชนตามท้องถนน มาแจ้งข้อหาฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า และนำตัวขึ้นรถจักรยานยนต์ไปพบพนักงานอัยการ และพาไปเปรียบเทียบปรับที่ศาลแขวงพระนครเหนือ
โดยนางสาวยุพาพร เปิดเผยว่า สิ่งที่ทำไม่ใช่เรื่องที่ผิด หากเทียบกับเรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมที่ใหญ่กว่ามาก แต่ยังขอไม่พูดอะไรมากเพราะหากพูดจะยาว และเกรงว่าจะละเมิดอำนาจศาล หลังเสร็จสิ้นคดีคาดว่าจะไม่กลับไปพักที่ห้องเช่าย่านลาดพร้าวแห่งเดิมอีกแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระบุว่า น.ส.ยุพาพร ได้พกโทรศัพท์มือถือไว้จริง แต่ไม่ได้ใส่ซิมการ์ดไว้ อาจทำให้ติดต่อญาติที่ตามหาไม่ได้
ต่อมาศาลแขวงพระนครเหนือได้พิเคราะห์พฤติการณ์ตามข้อกล่าวหา ประกอบกับไต่สวนจำเลยตามคำให้การแล้ว พิพากษา ปรับเป็นเงิน 3,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลยไม่มีเงินชำระค่าปรับและไม่สามารถติดต่อญาติได้ จึงให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวไปกักขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แทนการชำระค่าปรับ โดยมีการคิดอัตราโทษกักขัง 1 วัน แทนการชำระเงินค่าปรับ 500 บาท ซึ่งนางสาวยุพาพรต้องถูกกักขังเป็นเวลา 6 วัน นับตั้งแต่ที่มีคำพิพากษา