ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ อ.2768/2560 ที่ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 3 เป็น โจทก์ ยื่นฟ้อง “นายภัทรพงศ์ หรือภัทรพงษ์ หรือต้อย เครือนาค อายุ 31 ปี อดีตพนักงานเวรเปลโรงพยาบาลราชวิถีประจำสถาบันโรคผิวหนัง เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 , 371
จากกรณี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2560 เวลากลางวัน จำเลยได้พาอาวุธมีดปลายแหลม ความยาวรวมด้ามประมาณ 51 เซนติเมตร จำนวน 1 เล่ม ฟัน บริเวณคอด้านซ้ายและมือ ของนายสัญชาย วันงาม อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงพยาบาลราชวิถี จนหลอดเลือดแดงและดำบริเวณคอข้างซ้ายฉีกขาด กระดูกกล่องเสียงแตก และมีแผลฉีกขาดขอบเรียบบริเวณหลังมือซ้ายและบริเวณฝ่ามือซ้าย จนเป็นเหตุให้นายสัญชาย เสียเลือดมากจากหลอดเลือดแดงบริเวณลำคอฉีกขาดและถึงความตายในเวลาต่อมา คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 มี.ค.62 ให้จำคุกตลอดชีวิต ปรับ 1,000 บาท ซึ่งวันนี้ ศาลเบิกตัว “นายภัทรพงศ์” อดีตพนักงานเวรเปล จำเลย มาจากเรือนจำคลองเปรม ที่ถูกคุมขังตั้งแต่ดำเนินคดี โดยไม่มีทนายความ หรือญาติ เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ด้วย
ขณะที่ “ศาลอุทธรณ์” ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมามาน้ำหนักให้รับฟังได้มั่นคงว่า จำเลยมีความผิดจริง กรณีของจำเลยจึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนให้จำคุกตลอดชีวิตฐานฆ่าผู้อื่นฯ และปรับ 1,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ผู้พิพากษาถามถึงอาการของบิดาจำเลย ที่เคยกระโดดจากอาคารศาลอาญา ชั้น 8 กระแทกต้นไม้ ก่อนตกลงพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัสแขน-ขาหักในวันฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นเมื่อปี 2562 หลังจากเกิดความเครียดที่บุตรชายต้องถูกจำคุกตลอดชีวิต โดย “นายภัทรพงศ์” จำเลย กล่าวต่อศาลว่า บิดาอาการดีขึ้น สามารถเดินได้ปกติแล้ว ขณะที่ผู้พิพากษาได้แจ้งสิทธิตามกฎหมายให้จำเลยทราบด้วยว่ายังสามารถยื่นฎีกาได้ตามขั้นตอนอีก