ศาลอาญา รัชดา เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีฆ่าผู้อื่น ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 โจทก์ และนายกิตติศัพท์ ถิตย์บุญครอง บิดาผู้ตาย ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง ด.ต.อังคาร คำมูลนา ด.ต.สุดธินันท์ โนนทิง ด.ต.พรรณศิลป์ อุปนันท์ พ.ต.ท.สำเภา อินดี พ.ต.อ.มนตรี ศรีบุญลือ และพ.ต.ท.สุมิตร นันสถิตย์ ทั้งหมดเป็นอดีตตำรวจสังกัด สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในขณะเกิดเหตุ เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย และเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำการในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องรับโทษ
กรณีวันที่ 22 – 23 ก.ค. 2547 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งหก ได้ร่วมกันฆ่านายเกียรติศักดิ์ ถิตย์บุญครอง ผู้ต้องหาคดีลักรถจยย. ด้วยการบีบรัดลำคอจนถึงแก่ความตายแล้วเจตนาปิดบังการตายโดยนำศพผู้ตายจากที่เกิดเหตุไปแขวนคออำพรางคดีไว้ที่กระท่อมนา บ้านบึงโดน ม.5 ต.แสงชาติ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 30 ก.ค 2555 ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1-3 ส่วนจำเลยที่ 6 ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 5 ลงโทษจำคุก 7 ปี และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 4
ขณะที่ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 ก.ค.2558 ยืนประหารชีวิตจำเลยที่ 1 กับ 3 ส่วนจำเลยที่ 2 สั่งแก้โทษเหลือจำคุก 50 ปี และสั่งแกโทษจำเลยที่ 4 ให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วน จำเลยที่ 5 กับ6 ศาลสั่งแก้โทษคงจำคุกคนละ 5 ปี
โดยคดีนี้ จำเลยที่ 4-6 ได้รับการประกันตัวระหว่างฎีกา คนละ 1 ล้านบาท ส่วน จำเลยที่ 1-3 ยังคงอยู่ในเรือนจำฯ ศาลได้สั่งเบิกตัวมาฟังคำพิพากษาชั้นฎีกาในวันนี้
โดยเมื่อถึงเวลานัด ปรากฎว่า พันตำรวจเอกมนตรี ศรีบุญลือ อดีต ผู้กำกับการ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จำเลยที่ 5 ไม่มาฟังคำพิพากษา โดยไม่ได้แจ้งสาเหตุ ซึ่งทนายความอ้างว่าติดต่อไม่ได้ เนื่องจากโทรศัพท์มือถือปิดเครื่องตลอดเวลา ศาลจึงเห็นว่าจำเลยที่ 5 มีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยที่ 5 และให้นายประกันมาชำระค่าปรับ 1 ล้านบาท ภายใน 15 วัน โดยเลื่อนฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ออกไปไปเป็นวันที่ 11 ตุลาคม 2561 เวลา 9 นาฬิกา