ศาลอาญา รัชดา นัดฟังคำพิพากษา ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 59 ปี หรืออดีตพระพุทธอิสระ เจ้าอาวาส วัด อ้อน้อย อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นจำเลยในความผิดผฐานเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ
กรณีเมื่อระหว่าง 23 พ.ย.56 – 1 พ.ค. 57 ต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปมีพฤติการณ์เป็งอั้งยี่ซ่องโจร เป็นหัวหน้า ผู้สั่งการกลุ่ม กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ หน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยปลุกระดม ยุยง ชักชวนประชาชน และแนวร่วมเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และขัดขวางการเลือกตั้ง ส.ส. เข้ายึดหน่วยงานและสถานที่ราชการหลายแห่งโดยร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ใช้กำลังประทุษร้าย ร.ต.ต.สมคิด เชยกมล ,ด.ต.วชิรพงศ์ อุ่นนวลบูรพงศ์ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินรวม 8 รายการมูลค่า 60,900 บาทสูญหาย เหตุเกิดแขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จำเลยรับสารภาพและได้รับการประกันตัวจากศาล 2 แสนบาท ห้ามออกนอกประเทศ
วันนี้นายสุวิทย์ ที่อยู่ในชุดนุ่งขาวห่มขาว เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมด้วยทนายความและผู้ติดตาม และคณะศิษย์ยานุศิษย์ประมาณ 30 คน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดียี้จำเลยให้การรับสารภาพ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 309 วรรค 2และวรรค 3 กับมาตรา 310 วรรค2 ซึ่งเป็นความผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บเป็นโทษหนักสุดให้จำคุก 3 ปี จำเลยให้การสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน และเมื่อพิเคราะห์รายงานการสืบเสาะพินิจแล้ว เห็นว่าคดีนี้จำเลยได้วางเงินชดใช้ให้กับผู้เสียหายทั่งสองแล้ว จำนวน 4 หมื่นบาท ซี่งผู้เสียหายทั่งสองไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีต่อไป ขณะที่จำเลยไม่เคยได้รับโทษคดีอาญามาก่อน จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ส่วนที่อัยการขอให้นับโทษต่อจากคดีกบถ กปปส นั้น เนื่องจากคดีดังกล่าวศาลยังไม่มีคำพิพากษาจึงให้ยกคำร้อง
ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้วกลุ่มลูกศิษย์ ประมาณ 30 คน ได้พนมมือกล่าวพร้อมกันสาธุ ในห้องพิจารณาคดี