ศาลอาญามีนบุรี อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางเรวดี หาแก้ว หรือ “ป้าติ้น” และนางวิไลพร รัตนติสร้อย หรือ ป้าเล็ก อายุ 59 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา
จาก กรณีเมื่อปี 2559 นางเรวดี และนางวิไลพร ได้เข้าแจ้งความตำรวจ สน.ประเวศ ว่าถูกนางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือ ป้าดา ผู้เสียหายซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 066720 จำนวน 5 คู่ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 เม.ย. 2559 มูลค่า 30 ล้านบาท ทั้งที่ไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ศาลอาญามีนบุรี ได้นำสืบพยานหลักฐาน พบว่า จำเลยที่ 1 มีความหมกมุ่น ว่าตนเองถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัล ที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ซึ่งจากการสืบสวน พบว่าไม่เป็นจริง พิเคราะห์พยานหลักฐาน พิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดในข้อหาแจ้งความเท็จ, แจ้งความเท็จกับเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด เพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ให้ จำคุก 2 ปี และ ข้อหา หมิ่นประมาท โดยการโฆษณา เนื่องจากพบว่ามีการให้สัมภาณ์กับสื่อมวลชนกล่าวหาผู้เสียหาย ให้จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 3 ปี
ส่วน จำเลยที่ 2 ศาลเห็นว่า ไม่ได้รู้เห็นกับการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่วัดลาดบัวขาวมาก่อน แต่พอจำเลยที่ 1 กล่าวอ้าง ก็เชื่อโดยไม่หาข้อมูล ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ส่อให้เห็นถึงความโลภ โดยไม่คำนึงถึงผู้อื่น พิพากษาว่ามีความผิดในข้อหาร่วมกันกับจำเลยที่ 1 แจ้งความเท็จ, แจ้งความเท็จกับเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด เพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น จำคุก 2 ปี
ทั้งนี้ เห็นว่าการนำสืบคดีของจำเลยเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 ให้จำคุกจำเลยที่ 1 รวม 1 ปี 12 เดือน และ จำเลยที่ 2 รวม 1 ปี 4 เดือน
อย่างไรก็ตาม นางสุดารัตน์ หรือ ป้าดา ผู้เสียหาย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังฟังคำพิพากษาว่า รู้สึกดีใจที่คดีนี้จบลง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง และยืนยันว่าตนเองไม่ได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับที่ถูกรางวัลตามที่ป้าเล็ก และ ป้าติ๋น กล่าวหา