วันที่ 9 ก.ย. 63 ที่ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 12 สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือให้บริการฐานข้อมูลบังคับคดีผู้ประกันผ่านระบบ Web Service ระหว่าง สํานักงานศาลยุติธรรม กรมบัญชีกลาง กรมการขนส่งทางบก และ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จํากัด เพื่อบูรณาการฐานข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสืบหา ทรัพย์สินและความสะดวกในการรายงานผลการสืบหาทรัพย์สินของผู้ประกันในคดีอาญา โดยมี ร.ต.ท.หญิง ศรัณย์กร เลิศโอภาส ที่ปรึกษาด้านกฎหมายและระเบียบการคลัง กรมบัญชีกลาง ,นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และน.ส. ยุภาวรรณ ศิริชัยนฤมิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) ร่วมลงนาม
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า สํานักงานศาลยุติธรรมมุ่งที่จะพัฒนานวัตกรรมเพื่อการอํานวยความยุติธรรมและนําเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานตาม นโยบายประธานศาลฎีกา เพื่อเสริมศักยภาพระบบบริหารจัดการคดีในศาลยุติธรรมและเพื่อให้การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมรวดเร็ว ง่ายขึ้น และเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง
ทั้งนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากสํานักงานศาลยุติธรรมจะต้องรายงานผลการสืบหาหลักทรัพย์หรือทรัพย์สิน และการผ่อนชําระค่าปรับของผู้ประกันในคดีอาญาต่อกรมบัญชีกลาง ทุก 3 เดือน จึงได้พัฒนาระบบการเชื่อมต่อฐานข้อมูล ระหว่างระบบฐานข้อมูลการสืบหาหลักทรัพย์ และการผ่อนชําระค่าปรับกรณีที่ผิดสัญญาประกันในคดีอาญาของสํานักงานศาลยุติธรรม กับระบบความรับผิดทางละเมิดและแพ่งของกรมบัญชีกลาง ผ่าน web service นอกจากนี้เพื่อให้การดําเนินการสืบหาหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินของผู้ประกันในคดีอาญาเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน ตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกําหนด นอกจากนี้สํานักงานศาลยุติธรรมยังได้เชื่อมโยงฐานข้อมูลกับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จํากัด ซึ่งเป็นผู้จัดเก็บข้อมูลใบหลักทรัพย์และ เอกสารสิทธิต่าง ๆ รวมถึงจัดทําทะเบียนผู้ถือหลักทรัพย์เพื่อตรวจสอบข้อมูลหลักทรัพย์ในกรณีที่ ผู้ประกันเป็นผู้ถือหุ้น รวมทั้งร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก ในการตรวจสอบข้อมูลการถือกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะทําให้การบังคับคดีผู้ประกันในคดีอาญาสามารถดําเนินการด้วยความสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดการใช้ทรัพยากรกระดาษอีกด้วย
นายสราวุธ กล่าวต่ออีกว่า การบูรณาการความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขององค์กรร่วมกัน ซึ่งขณะนี้สํานักงานศาลยุติธรรมได้สร้างระบบเก็บ ข้อมูลคดีภายในของศาลยุติธรรม ลักษณะไฟล์อิเล็กทรอนิกส์จัดเก็บไว้ในที่เดียวรูปแบบ “ฐานข้อมูล BIG DATA” ในอนาคตคาดหวังว่าจะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวิเคราะห์เข้าถึง หรือการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ศาลยุติธรรมและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป