อาชญากรรม

ศาลฎีกาฯนักการเมือง ยกฟ้องทักษิณ คดีปล่อยกู้แบงก์กรุงไทย ชี้ พยานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 30 ส.ค. นายวิชัย เอื้ออังคณากุล รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 27 ราย เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 , ความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502  และข้อหาอื่น

จาก กรณีเมื่อวันที่ 8 ก.ย.2546  – 30 เม.ย.2547 ได้อนุมัติสินเชื่อ ธนาคารกรุงไทย ให้นิติบุคคล ในกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ซึ่งเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้ นำไปซื้อที่ดินโดยไม่มีการวิเคราะห์ถึงฐานะทางการเงิน และความสามารถในการชำระหนี้ โดยพวกจำเลยนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริตเป็นเหตุให้ ธ.กรุงไทยฯ ได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 10,054,467,480 บาท

คดีนี้นายทักษิณ จำเลยได้มอบอำนาจให้ทนายความร่วมโต้แย้งคดีเป็นสำนวนแรกและสำนวนเดียวที่ได้ถูกยื่นฟ้องคดีในศาลฎีกาฯ ซึ่งวันนี้ทนายความก็ได้มาฟังคำพิพากษาด้วย

ทั้งนี้ “องค์คณะฯ” พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าพยานของอัยการโจทก์ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการของธนาคารกรุงไทย ผู้เสียหาย เบิกความเกี่ยวกับซุปเปอร์บอส หรือ บิ๊กบอส เห็นชอบและสั่งการให้อนุมัติสินเชื่อให้กัับกลุ่มกฤษดามหาคร จำเลยที่ 19 ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นจำเลยที่ 1 หรือไม่ เพราะพยานได้รับฟังมาจากจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ พยานปากนี้จึงยังไม่มีน้ำหนักว่านายทักษิณ จำเลยที่ 1 สั่งการให้จำเลยที่ 2-4 ซึ่งเป็นผู้บริหารธนาคารกรุงไทยที่มีอำนาจอนุมัติสินเชื่อให้กลุ่มกฤษดามหานคร จำเลยที่ 19 จึงพิพากษายกฟ้อง

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *