ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่ ที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง “คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา” อายุ 73 ปี อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ “นายคัมภีร์ สมใจ” อายุ 73 ปี อดีต ผอ.สำนักบริหารงานและทรัพยากรบุคคล สตง. เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
จากกรณีที่จัดให้มีการสัมมนา ที่ จ.น่าน วันที่ 31 ต.ค.2546 ทั้ง ที่ไม่ได้มีการสัมมนากันจริง แต่จัดสัมมนาเพื่อให้ข้าราชการที่มีรายชื่อเข้ารับการสัมมนานั้น ได้ไปร่วมงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทานที่จัดขึ้นในวันเดียวกันแล้วให้เบิกค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในงบเดียวกัน 294,440 บาท ทำให้ สตง.เสียหาย ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิด “คุณหญิงจารุวรรณ” และ “นายคัมภีร์”
คดีนี้ ศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยคนละ 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ ส่วนศาลอุทธรณ์ แก้โทษให้จำคุกเหลือคนละ 1 ปี ไม่รอลงอาญา เช่นกัน ระหว่างจำเลยยื่นฎีกา นายคัมภีร์ จำเลยที่ 2 มีอาการภาวะหัวใจล้มเหลว แล้วเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ด้วยภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ศาลอาญาฯคดีทุจริต นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาจึงเห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสี่คงจำคุกเป็นเวลา 9 เดือน โดยโทษปรับจำนวน 20,000 บาทนั้น เมื่อลดโทษ 1 ใน 4 แล้วคงปรับเป็นเงิน 15,000 บาท
ส่วนที่ฎีกาจำเลยที่ 1 ขอให้รอการลงโทษนั้นศาลพิเคราะห์พิการแล้วเห็นว่า ระหว่างปฏิบัติหน้าที่นั้น จำเลยที่ 1 ไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย และได้เคยประกอบคุณงามความดี ส่วนการเบิกจ่ายเงินนั้น จำเลยที่ 1 ก็ไม่ได้นำไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวของตนเอง และจำนวนเงินในคดีนี้ก็มีจำนวนไม่มาก กับเป็นการกระทำความผิดครั้งแรกจึงสมควรให้โอกาสจำเลย ในการรอการลงโทษไว้ โดยโทษจำคุกนั้นให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี