พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ประชุมติดตามความคืบหน้า จากกรณีที่ครอบครัวของนายธีรวัฒน์ บูรณ์ชะนะ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 ที่ถูกคนร้าย 3 คน ยิงเสียชีวิต ที่จังหวัดตรัง เข้าร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า และมีผู้มีอิทธิพลเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้รองผบ.ตร.ได้เรียกพนักงานสืบสวนคดีเข้ามาเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีด้วย
ด้าน ครอบครัวผู้เสียชีวิต และพยาน ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บที่ถูกคนร้ายยิงในเหตุการณ์เดี๋ยวกันเล่าว่า ปัญหาครั้งนี้เริ่มจากกลุ่มคนร้ายมีปัญหากับพยานเรื่องขับรถปาดกันไปมา นำไปสู่ความไม่พอใจและไปตัดไฟบ้านของหนึ่งในคนร้าย ทำให้ถูกกลุ่มคนร้ายขู่จะเอาชีวิต วันเกิดเหตุนายธีรวัฒน์เดินทางไปพร้อมกับพยาน ทำให้ถูกยิงไปด้วย เมื่อจะนำตัวพยานซึ่งบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล กลับถูกยิงซ้ำ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความเพิ่ม หลังเกิดเหตุได้มีตำรวจบางนายประสานมาขอเจรจากับครอบครัวหลายครั้งให้ล้มคดี และขอติดสินบนพยาน 1 ล้านบาท แลกกับการให้พยานไม่ไปเบิกความในศาล หรือให้การเท็จต่อศาลว่าไม่เห็นหน้าคนร้ายเพราะมืด แต่พยานไม่ยอม ทำให้หลังจากนั้นก็ถูกกลุ่มคนร้ายข่มขู่ตนเองและครอบครัวเรื่อยมา แม้แต่ลูกสาวชั้น ป.3 ก็ถูกข่มขู่ จนไม่กล้าไปโรงเรียนและต้องบ้ายโรงเรียนหนีในที่สุด
ดังนั้นวันนี้จึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมโอนสำนวนขากสภ.หนองตรุด ไปให้กองบังคับปราบปรามรับผิดชอบ และตรวจสอบตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการ และนักการเมืองท้องถิ่นที่มีอิทธิพลในพื้นที่ที่เข้ามาแทรกแซงคดี และขอให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคุ้มกันพยานปากสำคัญ
ขณะที่ รองผบ.ตร. เปิดเผยว่า คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 3 คน ซึ่งตำรวจได้จับกุมแล้ว 2 คนต่อมาได้รับการประกันตัว ส่วนอีก 1 คน อยู่ระหว่างการหลบหนี จึงได้สั่งการให้ตำรวจติดตามตัวคนร้ายให้ได้ภายใน 15 วัน พร้อมสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนร้อยเวรที่ทำคดี และผู้ที่เกี่ยวขัอง จากกรณีที่ไม่สอบสวนและให้พยานชี้ตัวคนร้ายก่อนส่งฟ้อง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรณีไม่รับคดียิงรถที่กำลังจะส่งผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาลทั้งที่ถือว่าเป็นอีกคดีหนึ่งอันเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าและทำให้เสียทรัพย์ รวมถึงให้เจรตำรวจตั้งแฟ้มสืบสวน ว่ามีผู้มีนายตำรวจ หรือ ผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่
โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ ยอมรับว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนบกพร่องต่อการปฎิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรง ที่ไม่ให้พยานชี้ตัวผู้ต้องหาในใช้สอบสวนอันเป็นการเปิดช่องให้มีการวิเต้นล้มคดี และทำให้สำนวนคดีอ่อนในชั้นศาล