พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ คดีที่คนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้ชิงทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใจกลางเมืองลพบุรี
พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า คดีนี้ผู้บัญการตำรวจภูธรภาค 1 มาเร่งคลี่คลายคดีจนถึงตี 3 ทั้งการสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เร่งติดตามคนร้าย ส่วนทองที่คนร้ายชิงไป หากใครซื้อไว้จะมีความผิดฐานรับของโจร แต่หากใครแจ้งเบาะแสแก่ตำรวจจะกันไว้เป็นพยาน ซึ่งคดีนี้ตำรวจไม่ได้ปล่อยปละละเลย เพราะจากการตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.63 ตำรวจเข้ามาตรวจพื้นที่ถึง 9 ครั้ง แต่คนร้ายมาในช่วงที่ตำรวจไม่อยู่ ส่วนหลักฐานที่ได้ขณะนี้มีภาพถ่ายรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ โดยวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายมีรูปร่างสูงใหญ่ เบื้องต้น จากอาวุธปืน กระสุนปืน เครื่องแต่งกาย และลักษณะท่างทางของคนร้าย คาดว่าเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธ และมีความโหดเหี้ยม ยิง รปภ. จากด้านหลัง ยิงเด็ก ยิงคนที่มาซื้อทอง รวมทั้งพนักงานร้านทองซ้ำหล่ยครั้ง
ทั้งนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ใช้ความระมัดระวัง หากคนร้ายคิดต่อสู้ ต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ด้านครอบครัวของพนักสาวร้านทองที่เสียชีวิต ระบุว่า คนร้ายก่อเหตุค่อนข้างอุกอาจและข้องใจว่าหาปืนมาได้อย่างไร ส่วนตัวอยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษสูงสุด และอยากถามคนร้ายว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ อยากจะได้อะไรก็น่าจะเอาแค่ของไป ทำไมต้องเอาชีวิตคนไปด้วย เด็กชายที่ถูกยิง อายุแค่ 2 ขวบ ควรมีอนาคตอีกยาวไกล ขณะที่พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลานของตัวเองต้องกำพร้าแม่ ในขณะที่สามีของผู้เสียชีวิต เมื่อทราบข่าวก็เกิดอาการช็อกต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล รู้สึกว่าคนร้ายมีความชำนาญในการยิง เชื่อว่าคนร้ายมีการเตรียมการมาอย่างดี ทั้งอาวุธและการแต่งตัว อย่างไรก็ตาม ตำรวจภูธร จ.ลพบุรีทุกโรงพัก ร่วมกับทีมสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ลพบุรี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 อยู่ระหว่างสิบสวนติดตามคนร้ายตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยเช้านี้จะมีการสรุปผลอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกันนี้ได้ตั้งรางวัล 100,000 บาท สำหรับผู้แจ้งเบาะแส นำไปสู่การจับกุมคนร้ายรายนี้
