พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อย ที่บริเวณศูนย์การค้า ย่านปทุมวัน หลังเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ในส่วนของตำรวจนครบาลจัดจราจรไว้ 3,000 นาย เพื่อดูการจราจรโดยเฉพาะย่านการค้า ชั้นในกรุงเทพมหานคร ซึ่งยังไม่พบปัญหาการจราจรติดขัดในจุดใดเป็นพิเศษ และในวันพรุ่งนี้ เตรียมตำรวจจราจร ไว้รองรับ เพราะคาดว่า หลายบริษัท เริ่มเปิดทำการเป็นปกติ และยอมรับว่า ช่วงนี้ สภาพการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพิ่มมากขึ้นเป็นร้อยละ 40 และคาดว่าสัปดาห์เป็นต้นไป ปริมาณรถยนต์จะเพิ่มขึ้นมากเป็นร้อยละ 80
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังเน้นย้ำให้ทุกสถานีตำรวจ ตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบที่มีห้างสรรพสินค้า และกลุ่มกิจการทั้ง 10 กลุ่ม เพื่อเข้าตรวจสอบ โดยร่วมบูรณาการกำลังกับกรุงเทพมหานคร ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกพร้อมกับดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับห้างสรรพสินค้า ได้มีการประสานและเข้าตรวจสอบตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดทำการ แต่จากการตรวจสอบพบว่า สถานประกอบการทุกแห่งมีความพร้อมให้บริการประชาชน โดยมีการมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึง การจัดจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และมีการทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมสนับสนุนมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรม ระยะที่ 2 โดยเบื้องต้น จัดกำลัง 1,500 ชุด ร่วมปฏิบัติกับหลายหน่วยงาน เพื่อตรวจตราสถานที่ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดบริการ เช่น ห้างสรรพสินค้า ศูนย์อาหาร สวนอาหาร ตลาดนัด ตลาดขนาดใหญ่ ร้านค้าปลีก-ส่งขนาดใหญ่ รวมถึงสถานที่ออกกำลังกายทั่วประเทศ โดยจะเน้นดูแลเรื่องการจัดระเบียบ การเว้นระยะห่าง ให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง โดยจะเริ่มทยอยตรวจสอบตามแผน ที่แต่ละพื้นที่กำหนด แต่หากจุดใดที่มีประชาชนร้องเรียนว่า พบร้านค้า หรือสถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ก็จะส่งชุดสายตรวจเคลื่อนที่เร็วเข้าไปตรวจสอบทันที เช่น กรณีที่มีสถานบริการแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ จัดทำโฆษณาว่ากำลังจะเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเมื่อไปตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นเพียงการเปิดจำหน่ายอาหารให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน ซึ่งได้ตักเตือนให้แก้ไขคำโฆษณา ไม่ให้ใช้คำพูดที่กำกวมเพื่อป้องกันการเข้าใจผิดแล้ว