พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองพวกในการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสาระสนเทศ หรือ ศปอส.ตร. เข้าสอบปากคำนายโซฟิน ยาสซาด เชอริฟ ชาวแอลจีเรีย หลังพบตำรวจ จับกุมตัวได้ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม เมื่อวานที่ผ่านมา ขณะที่เตรียมกลับมาก่อเหตุซ้ำ
พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 ผู้เสียหายชาวอังกฤษได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ ประจำสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิตว่า กระเป๋าสตางค์ซึ่งภายในมีทรัพย์สินเป็นธนบัตรเงินสกุลอังกฤษจำนวน 2,555 ปอนด์/เงินไทยจำนวน 10,000 บาทและบัตรเครดิตต่างๆอีก 2 ใบ มูลค่ารวมกว่า 1 แสนบาท หายไป เจ้าหน้าที่จึงประสานตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้าสอบปากคำ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามซึ่งเป็นสถานีต้นทางที่ผู้เสียหายขึ้น พบคนร้ายสัญชาติแอลจีเรียพยายามเดินประชิดตัวผู้เสียหาย ก่อนจะก่อเหตุล้วงกระเป๋าผู้เสียหายภายในรถไฟฟ้าบีทีเอส จากนั้นคนร้ายได้นำบัตรเครดิตไปซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท 13 และนำไปรูดซื้อสินค้าแบรนด์เนม
จากการสอบสวนต้องหาสารภาพว่ามักจะเลือกก่อเหตุล้วงกระเป๋าตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ห้างสรรพสินค้า และสถานีรถไฟฟ้าโดยจะเลือกเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไม่ทันระวังตัวเนื่องจากมักจะไม่ค่อยแจ้งความดำเนินคดี เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ลักทรัพย์และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยไม่ชอบ
สำหรับผู้ต้องหารายนี้เคยมีประวัติก่อเหตุลักทรัพย์ในวันที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2561 แต่ในวันดังกล่าวผู้ต้องหาอ้างว่าเก็บกระเป๋าสตางค์ได้และพยายามส่งคืนผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายรูป และทำประวัติไว้ ก่อนจะกลับมาก่อเหตุซ้ำเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 ขณะที่แนวทางการศึกษาของตำรวจเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการทำกันเป็นขบวนการแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อหาตัวคนร้ายที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
