เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ร่วมกันจับกุม นายทศพล หรือ ป่าน (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล แขวงธนบุรี ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกง”โดย จับกุม ได้ บริเวณหมู่ 1 ต.ห้วยราชา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์
จากกรณี เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562 น.ส.เอ ผู้เสียหาย ได้เล่นเกมออนไลน์ (ซึ่งเป็นเกมที่มีการ สร้างตัวตนบนโลกโซเชียลสามมิติโดยเกมนี้สามารถแชทกับเพื่อนและจำลองสถานการณ์เสมือนจริงกับผู้เล่นอื่น จนได้ รู้จักกับนายป่าน โดยมีการพูดคุยในเกมออนไลน์ ซึ่งนายป่านได้หลอกลวง น.ส.เอ อ้างว่าตนเป็นลูกเจ้าของร้านอาหารที่ ฮ่องกง มีหน้าที่ดูแลกิจการร้านอาหารที่ฮ่องกง ต่อมาประมาณต้นเดือน มิถุนายน 2562 นายป่าน ได้หลอกลวง น.ส.เอ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่าย่าของนายป่าน ป่วยเป็นมะเร็ง พักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ไม่มีเงินรักษา ต้องการใช้เงินด่วน ซึ่งนายป่าน หาทางส่งเงินให้ญาติ ไม่ได้ เพราะร้านส่งเงินปิดหมด และได้บอกว่าตั๋วเครื่องบินที่จะเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 20 มิถุนายน 2562 ที่ จองไว้เลื่อนตั๋วไม่ได้ จึงบอกให้ น.ส.เอ โอนเงินจำนวน 20,000 บาท เข้าบัญชีของ นายต้น ซึ่งอ้างว่าเป็นญาติของนาย ป่าน ไปให้ก่อน และ น.ส.เอ หลงเชื่อจึงได้โอนเงินจากบัญชีดังกล่าวไป ต่อมาประมาณอีก 2 วัน นายป่าน ได้ติดต่อ น.ส.เอ อีกครั้งว่าต้องการใช้เงินจำนวนมาก ให้ น.ส.เอ ไปกู้เงินมา 20,000 บาท โดยสัญญาว่าเมื่อกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 20 มิถุนายน 2562 จะเคลียร์เงินคืนให้ น.ส.เอ ตามที่ได้บอกให้ น.ส.เอ จึงโอนเงินเข้าบัญชีญาติของนายป่าน ตามที่นายป่านบอก และในครั้งสุดท้าย นายป่าน ยังคง ติดต่อ น.ส.เอ ผ่านทางเฟซบุ๊กเช่นเดิมว่า ให้ช่วยหาเงินอีก 10,000 บาท เป็นครั้งสุดท้าย โดยให้โอนเช้าบัญชีที่นายป่าน อ้างว่าเป็นญาติ ซึ่ง น.ส.เอ ก็ยอมโอนให้ตามเดิม กระทั่งภายหลังนายป่าน อ้างว่าไม่สามารถมาประเทศไทยได้ และได้เลื่อนการกลับประเทศไทยมา โดยตลอด และเมื่อ น.ส.เอ ทวงถามเรื่องเงินที่โอนไปให้ นายป่านก็ผัดผ่อน และต่อมา น.ส.เอ รู้ว่าถูกหลอก ประกอบกับไม่สามารถติดต่อนายป่านได้อีก จึงมาแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนี มาอยู่ที่ อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ จึงบูรณาการกำลังเข้าตรวจสอบ และพบผู้ต้องหาอยู่ บริเวณดังกล่าว จึงเข้าควบคุมตัวนำส่ง พงส.สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าตนรู้จักกับ น.ส.เอ เป็นเวลานาน ผ่านทางเกมออนไลน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองประกอบอาชีพเป็นพ่อครัวอยู่ในฮ่องกง ไม่ได้เป็นเจ้าของแต่อย่างใด การที่ตนได้หลอก น.ส. เอ นั้น ตนเองอยากได้รองเท้าซึ่งมีราคาแพง จึงออกอุบายดังกล่าว