นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ในช่วงที่มีการควบคุมเข้มงวด ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2562 – 2 มกราคม 2563 มีสถิติคดีที่เข้าสู่ระบบงานคุมประพฤติ จำนวนทั้งสิ้น 12,360 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 11,997 คดี คิดเป็นร้อยละ 97.06 , คดีขับเสพ จำนวน 345 คดี คิดเป็นร้อยละ 2.79 , คดีขับซิ่ง/ แข่งรถ จำนวน 1 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.01 และคดีขับรถประมาท จำนวน 17 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.14 โดยจังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 707 คดี จังหวัดขอนแก่น จำนวน 643 คดี และจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 615 คดี
เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีที่เข้าสู่ระบบงานคุมประพฤติ ในช่วงเทศกาลปีใหม่พ.ศ. 2562 และ พ.ศ. 2563 พบว่าคดีขับรถขณะเมาสุราเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 3,291 คดี คิดเป็นร้อยละ 37.80 และเมื่อตรวจประวัติการกระทำผิดย้อนหลัง 1 ปี พบมีผู้กระทำผิดซ้ำ จำนวน 362 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.93 และยังพบว่ามีผู้กระทำผิดในคดีขับรถขณะเมาสุรา ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 กลับมากระทำผิดซ้ำในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 จำนวน 24 ราย
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากมาตรการทางกฎหมายที่จะดำเนินการกับกลุ่มผู้กระทำผิดเหล่านี้ตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด กรมคุมประพฤติ ยังมีการคัดกรองด้วยแบบประเมินพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยในเบื้องต้นจะส่งเข้ารับการบำบัดการติดสุรากับสถานพยาบาล ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ ในส่วนของกลุ่มผู้กระทำผิดซ้ำจะดำเนินการเข้มข้นในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นระยะเวลา 3 วันต่อเนื่อง ร่วมกับการทำงานบริการสังคม อาทิ การดูแลเหยื่ออุบัติเหตุ การช่วยเหลืองานในโรงพยาบาล และการให้ความรู้สร้างจิตสำนึก เช่น การเยี่ยมชมห้องดับจิตและตึกอุบัติเหตุ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และสร้างความตระหนักถึงผลกระทบของการขับรถขณะเมาสุรา