พ่อของเด็กหญิงวัย 14 ปี พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้รับเหมาและคนงานก่อสร้าง รวม 5 คน หลังทั้งหมดร่วมกันก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราลูกสาวของตัวเอง เป็นระยะเวลานานเกือบ 1 ปี ขณะเดียวกันให้ดำเนินคดีกับหญิงสาวอีก 2 คน ที่เชื่อว่าเป็นนางนกต่อ ชักชวนให้ลูกสาวหนีออกจากบ้านไปก่อนเกิดเหตุด้วย
พ่อของเด็กหญิง 14 ปี เล่าว่า เมื่อ เดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว มีนางสาวใหม่ ซึ่งเป็นคนสนิทกับครอบครัวได้โทรศัพท์มาหาลูกสาว ชักชวนให้หนีออกจากบ้านในอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้ลูกสาวของตัวเองนั้นไปอยู่กับครอบครัวของนางสาวใหม่ ที่แคมป์ก่อสร้าง พื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา // แต่หลังจากนั้น ลูกสาวกลับถูกผู้รับเหมาและคนงาน 4 คน ข่มขืนกระทำชำเราต่อเนื่องหลายเดือน หลังเกิดเหตุลูกสาวได้พยายามติดต่อผ่านญาติ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ระบุว่า อยากหนีออกจากแคมป์ก่อสร้างดังกล่าว แต่ก็ถูกญาติปฏิเสธความช่วยเหลือเพราะเกรงจะถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุทำร้าย
กระทั่งเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลูกสาวได้หลบหนีจากแคมป์ก่อสร้างที่อำเภอ จังหวัดสงขลา มาพักอาศัยกับลูกพี่ลูกน้องคนดังกล่าว แต่กลับถูกผู้รับเหมาในแคมป์ก่อสร้าง ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา ในอพาร์ทเมนต์อีก ซึ่งคนนี้ ชื่อ นายตั้ม ได้มีการทำร้ายร่างกายลูกสาว ด้วยการบีบคอ พร้อมข่มขู่ไม่ให้มีการแจ้งความกับตำรวจ ทั้งยังระบุว่าตัวเองเป็นทนายความ มีความรู้ด้านกฎหมายเป็นอย่างดี
โดยหลังเกิดเหตุครั้งล่าสุด พ่อของเด็กหญิง 14 ปี ได้เดินทางไปรับตัวลูกสาวจากแคมป์ก่อสร้าง ย่านประเวศ เมื่อวันที่31 กรกฎาคม ก่อนพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที และได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสถานีตำรวจภูธรกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสถานีตำรวจนครบาลประเวศ แต่จนถึงขณะนี้คดีไม่คืบหน้า จึงนำหลักฐานเข้าร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามให้เร่งรัดดำเนินคดี ส่วนผลการตรวจร่างกายของเด็กหญิง 14 ปี เบื้องต้นแพทย์ระบุว่าพบร่องรอยการถูกกระทำเรา ขณะที่เด็กหญิง 14 ปี ทางครอบครัวเตรียมประสานให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าช่วยเหลือ เพราะพบว่าเริ่มมีอาการซึมเศร้า